“บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล”...โชว์ความสำเร็จ ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สมดุลตามอายุ’ คว้ารางวัลชนะเลิศ 2 ปีซ้อน
>>
“บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล” โชว์ศักยภาพการบริหาร “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สมดุลตามอายุ” คว้ารางวัลชนะเลิศประเภท “Pooled Fund ที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท” ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 (ปี 2017-2018) จากสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ชูจุดเด่นกระจายการลงทุนพร้อมตั้งเป้า AUM เติบโต 33%
นางปาจรีย์ บุณยัษฐิติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการ ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประเภทสมดุลตามอายุ (Target Date Fund)’ เพื่อเป็นแหล่งเงินออมแก่สมาชิกไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ ล่าสุด
“กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สมดุลตามอายุ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว” ประสบความสำเร็จได้รับคัดเลือกรับรางวัลชนะเลิศ ประเภท “Pooled Fund ที่มีขนาดกองทุนต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท”
จากโครงการประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 7 ประจำปี 2018 ที่จัดโดยสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยนับเป็นการได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภทดังกล่าวเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน (ปี 2017 และ 2018)
“รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงประสิทธิภาพการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หลังผ่านเกณฑ์การพิจารณาในด้านต่างๆ เช่น โครงสร้างการบริหารจัดการกองทุน, บทบาทต่อการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกกองทุน, ความสามารถการเป็นที่พึ่งในวัยเกษียณ ฯลฯ”
โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประเภทสมดุลตามอายุ ของบริษัทมีจุดเด่นคือการให้สมาชิกเลือกแผนการลงทุนตามปีเกษียณของตนเองเพียงครั้งแรกครั้งเดียว โดยผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่เลือกประเภทของสินทรัพย์ที่จะลงทุน ซึ่ง
- เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น พันธบัตร เงินฝาก หุ้นทั้งในและต่างประเทศ ทองคำ กองทรัสต์ ฯลฯ
- ปรับเปลี่ยนพอร์ตลงทุนในระยะยาวให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงอายุของสมาชิกโดยอัตโนมัติ และมีแผนการลงทุนรองรับสำหรับสมาชิกที่เกษียณอายุแล้ว โดยมีต้นแบบการบริหารจัดการจาก ‘Principal Financial Group’ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการกองทุนบำเหน็จบำนาญระดับโลกจากสหรัฐ
“นโยบายการให้บริการของเราคือเป็นมากกว่าบริษัทจัดการกองทุน โดยทำหน้าที่เป็นเสมือนคู่คิดในการวางแผนชีวิตวัยเกษียณให้แก่ลูกค้า ทั้งการให้คำปรึกษา การจัดอบรมให้ความรู้ การวางแผนการลงทุนให้แก่สมาชิกกองทุน และเน้นการเพิ่มความคล่องตัวแก่สมาชิกกองทุนในการติดตามความคืบหน้าของผลการดำเนินงาน ประมาณการเงินเกษียณในอนาคตจากแผนการลงทุนและอัตราเงินสะสมสมทบของสมาชิก ตลอดจนการสับเปลี่ยนแผนการลงทุน หรืออัตราเงินสะสมผ่านทาง website ของเรา เพื่อให้สมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายในวัยเกษียณได้”
นางปาจรีย์ ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัท ‘ประเภทสมดุลตามอายุ’ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมประมาณ 6,000 ล้านบาท นับว่าใหญ่ที่สุดในกลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทสมดุลตามอายุในธุรกิจนี้ และมีอัตราเติบโตประมาณ 50% จากมูลค่า AUM ปี 2017 อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2019 บริษัทวางเป้าหมายผลักดัน AUM เติบโต 33% หรือมีมูลค่า AUM
เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยจะใช้กลยุทธ์บริหารจัดการกองทุนฯ และความเสี่ยงด้วยความระมัดระวัง เพื่อบริหารจัดการกองทุนให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองเป้าหมายการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ โดยสมาชิกกองทุนฯ สามารถติดตามผลการดำเนินงานทางเว็บไซต์ของบริษัท
“นอกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทสมดุลตามอายุแล้ว เรายังมีบริการด้านอื่นๆ เพื่อให้คำแนะนำการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแก่บริษัทนายจ้างและลูกจ้าง ยกตัวอย่างบริการ Consultative model หรือการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทนายจ้างในการวิเคราะห์การเลือกอัตราเงินสะสม แผนการลงทุน ตลอดจนการคำนวณหา Average Replacement Ratio หรืออัตราทดแทนรายได้หลังเกษียณเฉลี่ยของลูกจ้างทั้งองค์กร หรือบริการ Plan WISE Retire Well ซึ่งเป็นบริการออนไลน์ให้สมาชิกกองทุนทดลองคำนวณเงินที่จะมีในวันเกษียณอายุ ภายใต้แผนการลงทุนและอัตราการออมในปัจจุบัน พร้อมคำนวณเงินใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณ ภายใต้สมมติฐานของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งมีประโยชน์กับสมาชิกในการเตรียมความพร้อมเพื่อการเกษียณอายุอย่างมีความสุขอย่างมาก”