เปิดตัว 10 ขุนพล เบื้องหลังความสำเร็จปั้น JKN สู่ผู้นำคอนเทนต์ระดับโลก

>>

จากร้านเช่าวิดีโอสู่ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล วันนี้ JKN กำลังจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเป็น Regional Company ด้วยการตั้ง Holding company และมีแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นศูนย์กลางรุกขยายคอนเทนต์ระดับเอเชียและระดับโลก พร้อมแนะนำ 10 ขุนพล กลไกสำคัญ ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ


โดย คุณแอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์
 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล กล่าวว่า ไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน เทคโนโลยีใหม่จะเข้ามาทดแทนเทคโนโลยีเก่า ผู้ให้บริการด้านคอนเทนต์จะยิ่งได้รับผลประโยชน์ ดังนั้น JKN จึงวางเป้าหมายการเป็นผู้นำด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลก

ด้วยผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 1,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2559 และมีกำไร 227.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% จากปี 2560 นับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของธุรกิจ เจเคเอ็น ในปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

และวันนี้ เจเคเอ็น กำลังจะก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเป็น Regional Company รุกขยายตลาดคอนเทนต์ไปสู่ภูมิภาคเอเชียในทุกแพลตฟอร์ม เพราะมองว่าตลาดคอนเทนต์ในต่างประเทศเป็น Blue Ocean มีโอกาสการเติบโตอีกมาก โดยจะใช้กลยุทธ์การตลาด ซูเปอร์สตาร์ มาร์เก็ตติ้ง นำนักแสดงจากซีรีย์ต่างประเทศไปร่วมโรดโชว์จำหน่ายลิขสิทธิ์ในประเทศต่างๆ และงานเทศกาลจำหน่ายคอนเทนต์อีกด้วย

JKN วางเป้าหมายใน 3-5 ปี ข้างหน้าจะก้าวสู่การเป็น Regional Company ด้วยการจัดตั้ง Holding company ซึ่งจะเปิดให้นักลงทุนในอุตสาหกรรมสื่อและคอนเทนต์จากต่างประเทศเข้าร่วมถือหุ้น และนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียก่อนจะพัฒนาเข้าสู่ระดับโลก

แต่การจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับโลกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องมีทีมบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถบริหารจัดการได้ด้วยคนเพียงคนเดียว JKN ก็เช่นกัน เบื้องหลังความสำเร็จกว่าพันล้าน ไม่ได้มีเพียง คุณแอน เท่านั้น

วันนี้ Wealthy Thai จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก 10 ขุนพล ผู้อยู่เบื้องหลังการทำงานของ JKN และจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในอนาคต โดยเริ่มต้นที่


คุณธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี

รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี

บริหารจัดการด้านการเงินของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองเป้าหมายรายได้ปี 2562 เติบโต 20% พร้อมใช้งบลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพิ่มเติม รองรับแผนการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และลงทุนใน JKN CNBC รวมถึงปรับปรุงระบบบริหารจัดการข้อมูลภายในบริษัท นอกจากนี้ ยังสนใจขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ หรือฮ่องกง เพื่อเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคอนเทนต์ในเอเชีย และมุ่งสู่การเป็นระดับโลกในอนาคต 

คุณกมลรัตน์ มงคลครุธ
รองกรรมการผู้จัดการสายงานการขาย

มุ่งจำหน่ายคอนเทนต์ภายในประเทศ ครอบคลุม 7 แพลตฟอร์ม ได้แก่ ดิจิทัลทีวี จำนวน 22 ช่อง (Digital TV), เคเบิลและทีวีดาวเทียม กว่า 200 ช่อง (Cable Satellite), เทคโนโลยีความบันเทิงในบ้านและครัวเรือน (Home Entertainment), ผลิตภัณฑ์และของที่ระลึก (Merchandise), สื่อสิ่งพิมพ์ (Publishing), บริการเผยแพร่เนื้อหาผ่านแอปพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตผ่านทุกแพลตฟอร์ม (Over the Top) และ สื่อบริการบนยานพาหนะต่างๆ (Ancillary)

คุณพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์
รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหาร

JKN เป็นเสมือนศูนย์รวมคอนเทนต์หลากหลายประเภทที่ป้อนสู่ช่องทีวีดิจิทัลและแพลตฟอร์มอื่นๆ จึงพร้อมรองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมผู้ชมทุกกลุ่ม ปัจจุบันบริษัทฯ นำเข้าและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์คอนเทนต์รวมจำนวน 8 กลุ่ม ได้แก่

  1. Asian Fantasy (ซีรีส์เอเชีย)
  2. Hollywood Hit (ซีรีส์และภาพยนตร์อเมริกา)
  3. I-Magic (สารคดี)
  4. Kids Inspired (การ์ตูน)
  5. News (ข่าว)
  6. JKN originals (สารคดีเฉลิมพระเกียรติ)
  7. Music star parade (คอนเสิร์ต)
  8. Super Show (รายการโชว์จากต่างประเทศ)

คุณบรรพต ชวาลกร
รองกรรมการผู้จัดการสายงานการลงทุน

แผนงานในต่างประเทศจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากหัวใจสำคัญในการจับมือกับกลุ่ม BEC World ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ทำให้ JKN สามารถนำละครดังในช่อง 3 กว่า 70 เรื่องไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ โดยปิดสัญญาการขายได้มากกว่าร้อยชั่วโมงที่ประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ รวมถึงภาพยนตร์นาคี 2 ที่สามารถจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังเจรจากับกลุ่มประเทศในแถบอินเดียอีก 7 ประเทศ จึงถือเป็น Blue Ocean ที่บริษัทฯ มีโอกาสนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปขยายฐานรายได้สร้างการเติบโตได้อีกมาก ทั้งยังเป็นการเผยแพร่ความเป็นไทย (Thainess) ในระดับโลก รวมถึงลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียที่ได้รับความไว้วางใจจากค่ายผู้ผลิตให้สามารถนำไปจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย ในปีที่ผ่านมา JKN มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 20% โดยประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา

คุณสุธานุช สุธีรวัฒนานนท์
รองกรรมการผู้จัดการสายงานคอนเทนต์

การยืนหยัดในฐานะผู้จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เบอร์หนึ่งของประเทศ เกิดจากความรู้ความเข้าใจตลาด ความแม่นยำ ความเชี่ยวชาญในเรื่องคอนเทนต์ และความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการห่วงโซ่มูลค่าคอนเทนต์ (Content Value Chain Management) ทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบคอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้ชม

หนึ่งในกลยุทธที่สำคัญของ JKN คือคัดสรรเลือกคอนเทนต์ (Content Acquisition) ที่มีคุณภาพดีประสบความสำเร็จในต่างประเทศและวิเคราะห์ว่าตรงกับรสนิยมของคนไทย มาเข้าสู่กระบวนการพัฒนาคอนเทนต์ เพื่อเพิ่มมูลค่าคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การทำเพลงประกอบซีรีส์ภาษาไทย โดยใช้ Superstar มาถ่ายทอดเรื่องราวบทละคร ผ่านบทเพลง ทำให้ผู้ชมได้เข้าถึงและอินกับซีรีส์ของเรามากยิ่งขึ้น และกระบวนการผลิตคอนเทนต์ (Localization) คือการแปลบทละครและพากย์ให้เสียงภาษาไทย โดย JKN มีทีมงานผลิตคอนเทนต์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาและวัฒนธรรม มีประสบการณ์ยาวนาน กว่า 100 ชีวิต ร่วมกันทำงานอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบความเป็นที่สุดของคอนเทนต์ อาหารสมองและยาเสพติดทางสายตาสู่สายตาผู้ชม

คุณสมบัติ กิตติบันเทิงกุล
รองกรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ

อีกหนึ่งปัจจัยความสำเร็จของ JKN เกิดจากการลงทุนเพิ่มขีดความสามารถการผลิตคอนเทนต์โดยเฉพาะในส่วนห้องพากย์เสียง โดยบริษัทฯ มีการขยายห้องพากย์และติดตั้งนวัตกรรมที่มีมาตรฐานระดับโลก ได้แก่ ระบบวางแผนการใช้ทรัพยากรทางธุรกิจ (Enterprise Resource Planning: ERP) ระบบการจัดการลิขสิทธิ์คอนเทนต์และการออกอากาศ (Multimedia Management System: MMS) และระบบการจัดการไฟล์มีเดียคอนเทนต์ (Media Assets Management System: MAM) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มกำลังการผลิตคอนเทนต์ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ

คุณปิยลักษณ์ รักประทานพร
รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด

JKN เน้นทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในสื่อหลัก และสื่อออนไลน์ ภายใต้ช่องทางการสื่อสาร 4 ON (On Air, On Print, Online, On Ground) โดยมีแนวคิด ‘Superstar Marketing’ หรือที่บริษัทฯ เรียกว่าอภินิหารการตลาด เป็นกลยุทธ์หลักที่ใช้มายาวนานกว่าสิบปี และเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่ JKN นำเข้ามาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยเป็นการนำศิลปินที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่ชื่นชอบมาทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มแฟนคลับ เช่น กิจกรรม Meet & Greet, การเดินสาย Star Tour หรือร่วมพัฒนาคอนเทนต์ เช่น การร้องเพลงประกอบ เพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดให้เกิดการติดตามผลงาน

คุณยลลดา เกริกก้อง สวนยศ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น แชนแนล จำกัด

ธุรกิจหลักของ JKN Channel คือ สถานีโทรทัศน์เคเบิลดาวเทียมช่อง JKN Dramax โดยมีรายรับเป็นค่าโฆษณาและประชาสัมพันธ์ รายการส่วนใหญ่เป็นรูปแบบ Asian Fantasy, Hollywood Hit และ Super Show มีเรตติ้งอันดับหนึ่งประเภท Entertainment Variety (จากข้อมูลของ AGB Nielsen) นอกจากนี้ JKN Channel ยังมีความเชี่ยวชาญในการจัดงานอีเว้นต์ระดับประเทศ โดยผลงานสร้างชื่อ อาทิ My King the Introduction, JKN Mega Showcase จึงเป็นอีกหนึ่งศักยภาพที่สามารถต่อยอดให้แก่ JKN และทุกบริษัทในเครือ

คุณสโรชา พรอุดมศักดิ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท
เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด

ผลิตคอนเทนต์รายการข่าวภายใต้แบรนด์ JKN CNBC เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยจะเริ่มออกอากาศครั้งแรกในเดือนมิถุนายนนี้ เน้นเป็นรายการข่าวและการลงทุนที่เข้าใจง่าย เพื่อป้อนให้สถานีโทรทัศน์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทีวีดิจิทัลหลายช่อง อีกทั้ง JKN CNBC ยังเป็น Content Provider โดยมีการรายงานข่าวเป็นภาษาอังกฤษไปยังประเทศสิงคโปร์เพื่อแพร่ภาพไปทั่วภูมิภาคเอเชีย มีผู้ชมกว่า 14.2 ล้านครัวเรือน

คุณอภิรักษ์ มิตรประชา
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น ไอเอ็มซี จำกัด

บริหารจัดการด้านมาร์เก็ตติ้งจากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีอยู่กว่า 3,300 คอนเทนต์ โดยมุ่งเน้นการบูรณาการสื่อและคอนเทนต์ในเครือบริษัทฯ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย Omni Channel ที่เข้าถึงผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้จากการขายสื่อโฆษณาผ่านแพ็คเกจในรูปแบบต่างๆ ทั้งช่องทางออนแอร์ ออนไลน์ และออนกราวด์  อาทิ การประชาสัมพันธ์ จัดหาสปอนเซอร์ และจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น Digital TV และ Cable Satellite

ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าจะสามารถนำพา JKN ก้าวไปสู่การเป็น Regional Company ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน…..

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.jknglobal.com