EFORL เด้งรับไทยแลนด์ 4.0 ลุยขายเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์

>>

นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จํากัด  (มหาชน) หรือ EFORL เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ที่สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชน เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ขณะที่แพทย์ก็มีฐานข้อมูลประกอบการในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และการให้บริการแพทย์สาธารณสุข ซึ่งบริษัทฯถือเป็นผู้คิดค้นและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ปัจจุบันมีการนำData  เข้ามาร่วมในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆ 

ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯได้คิดค้นและออกผลิตภัณฑ์ใหม่  ได้แก่ 1.โปรแกรมระบบเตือนและเฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตล่วงหน้า Early Warning Score Program (EWS)  2.ระบบอิเล็กทรอนิกส์เวชระเบียนงานระงับความรู้สึก (Anesthesia Record System) ซึ่งเป็นโครงการระยะที่สองร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาลัยมหิดล  3.โปรแกรมระบบการดู ส่งต่อและเก็บข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ร่วมกับระบบเวชระเบียนของโรงพยาบาล แบบอัตโนมัติ 4.โปรแกรมระบบส่งต่อข้อมูลของเครื่องวัดความดันโลหิต และรวมถึงทั้งห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) เพื่อป้อนตลาดโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยหลายแห่ง

“บริษัทฯพยายามสร้างกำไรในธุรกิจเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้น ซึ่งการที่ภาครัฐมีนโยบาย 4.0 ด้านซอฟต์แวร์ ทำให้เป็นผลดีทางการแพทย์โดยรวม รวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องมือแพทย์ด้วยเช่นกัน ที่ผ่านมาเรามีการคิดค้น Data ลงในสมาร์ทโฟนเพื่อช่วยในการดูแล รักษา และปัจจุบันเราก็ขยายผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม โดยล่าสุดเรามีงานในมือ ที่เป็นเครื่องมือแพทย์ในห้อง ICU และห้องผ่าตัด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และอยู่ระหว่างประมูลเพิ่มเติม” นายปรีชา กล่าว

ส่วนขยายธุรกิจความงามอย่างครบวงจรเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทําโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม การสร้างสาขาแบบ cosmetic shop การปรับปรุงสาขาให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภค การเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางและสินค้าใหม่ๆ การขยายสาขาในระบบ Franchise ให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและตลาดเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

ประธานกรรมการ EFORL กล่าวอีกว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อน จากการพัฒนาประสิทธิภาพในการขาย ขยายตลาดในฐานลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ ผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งธุรกิจดังกล่าว เป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง และมีการเติบโตได้แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากเป็นสินค้าที่จาเป็นต่อการดำรงชีวิต ซึ่งส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย