“บลจ.กรุงไทย”...ชูหุ้น ‘Healthcare’ น่าสนใจลงทุนระยะยาว

>>

“บลจ.กรุงไทย”...ชูหุ้นกลุ่ม ‘Healthcare’ น่าสนใจลงทุนระยะยาว ปัจจัยหนุนการเติบโต สังคมผู้สูงอายุ-คชจ.ด้านสุขภาพเพิ่มปลื้ม KT-Healthcare&KT-Healthc RMF’ ผลงานดีต่อเนื่อง


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่ม  Healthcare  มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนที่อยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทก็ให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ในอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ (KT-Healthcare)’ และ ‘กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-Healthc RMF)’


 
( นางชวินดา หาญรัตนกูล )


โดยทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Janus Global Life Sciences Fund’ ที่มีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว  เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต ( Life Sciences )  ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษา หรือการพัฒนาคุณภาพชีวิต


หุ้นกลุ่ม Healthcare ประกอบด้วย 

  • กลุ่มยา(pharmaceuticals)
  • กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ  (biotechnology) 
  • กลุ่มเครื่องมือแพทย์ (medical products)
  • กลุ่มประกันสุขภาพ (medical insurance)
  • กลุ่มโรงพยาบาล  คลินิค สถานดูแลผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ (pharmaceutical services )
  • กลุ่มเวชสำอาง 


“ดังนั้น Healthcare จึงถือเป็นหุ้นกลุ่มที่มีการกระจายตัวการลงทุนที่หลากหลายและสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในช่วง10 ปีที่ผ่านมา เพราะแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน อันเป็นผลจากปัจจัยสนับสนุนเชิงโครงสร้างหลายประการ เช่น คนอายุยืนขึ้น ประชากรสูงวัยมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ความปลอดภัยด้านสุขภาพ/อาหาร ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี การใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น แนวโน้มเหล่านี้น่าจะยังคงดำเนินต่อไป และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในกลุ่ม Healthcare อย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว”


มร.แอนดี้ แอคเคอร์ ผู้จัดการร่วมของกองทุน
Global Life Sciences  กล่าวว่า การลงทุนหุ้นกลุ่ม Healthcare มีการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วของนวัตกรรม ปีที่ผ่านมาองค์การอาหารและยาสหรัฐอนุมัติยา 59 รายการ ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยในช่วง 2 ปี ล่าสุด ยารักษาโรคกว่า 100 รายการ ได้รับการอนุมัติและผลิตภัณฑ์เหล่านี้ซึ่งเพิ่งเริ่มวางตลาดน่าจะเพิ่มการเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าวในอีกหลายปีข้างหน้า


“การควบรวมกิจการในกลุ่ม Healthcare มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อไปในปี 2019 เพราะบริษัทในกลุ่มมีเงินสดมาก อันเป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิรูปภาษี ทำให้คาดการณ์ได้ว่าบริษัทเหล่านี้จะเพิ่มการใช้จ่าย เพราะปกติก็มักจะแสวงหาการลงทุนและโอกาสใหม่ๆอยู่แล้ว ในไตรมาสแรกของปี 2019 มีธุรกรรมมูลค่ากว่า $1 แสนล้าน ถูกประกาศออกมาหรือจบดีลได้ ทั้งหมดตกลงกันที่ราคาพรีเมี่ยมตั้งแต่ 50% ถึงกว่า 100%”


อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2019 น่าจะได้เห็นผลการศึกษาเกี่ยวกับ ‘ภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy)’ เพื่อสู้กับโรคมะเร็ง และ ‘พันธุกรรมบำบัด (genetic therapies)’ ตัวใหม่ๆ ขณะที่ บริษัทเครื่องมือแพทย์น่าจะก้าวหน้าไปกับหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด และเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาหัวใจผิดปกติ


“แนวโน้มโครงสร้างประชากร ยังคงสนับสนุนการเติบโตของกลุ่ม Healthcare ในสหรัฐมีคนฉลองวันเกิดครบ 65 ปี เฉลี่ยวันละมากกว่า 1 หมื่นคน ตัวเลขนี้สำคัญเพราะผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคิดเป็น 3 เท่าของผู้ใหญ่ที่อายุน้อยกว่า 65 ปี เราเชื่อว่า ประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นทั่วโลก ประกอบกับนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้น น่าจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงของความต้องการดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ อนาคตของกลุ่ม Healthcare ยังคงแข็งแกร่งในปี 2019 งบดุลที่แข็งแรง ตลอดจนความก้าวหน้าด้านนวัตกรรม น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นและดึงดูดความสนใจของนักลงทุน”


สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของ ‘กอง KT- Healthcare’  ณ  วันที่ 29 มี.ค.19


YTD อยู่ที่ 13.65%

1ปี อยู่ที่ 10.56% 

3ปี อยู่ที่ 9.80


ส่วน ‘กอง KT-Healthc RMF’


YTD  อยู่ที่ 13.55%

1ปี อยู่ที่ 10.04%

3 ปี อยู่ที่ 9.13%