เจาะเวลา...หา “ผลตอบแทน”

>>

ก่อนหวยออก... “พรุ่งนี้รวย” เช้าวันหวยออก... “วันนี้รวย” แต่เชื่อว่าคนเสี่ยงโชคกับลอตเตอรี่ส่วนใหญ่... วันนี้ก็ “ยังไม่รวย” ตามโฆษณาชวนเชื่อกันสักที ที่ผลเป็นเช่นนั้น ย่อมเพราะไร้เหตุที่อำนวยให้เกิดผลนั่นเอง


เรื่องนี้อาจต้องถึงมือ ‘ดร.บราวน์’ กับ ‘รถยนต์เดอลอรีน’ ย้อนเวลาของเขาที่จะพาคุณซิ่งฝ่าสายฟ้าหมุนทวนเวลาเพื่อกลับไปแก้ไขอดีตของคุณกันอีกครั้ง เหมือนที่ ‘มาร์ตี้ แม็กฟลาย’ เคยจำเป็นต้องทำมาแล้วนั่นเอง


แต่ถึงจะไม่มี ‘รถยนต์ย้อนเวลา’ คันนั้น คุณก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตทางการเงินของตัวคุณเองได้ ด้วยการสร้างเหตุแห่งความมั่งคั่งให้เกิดขึ้นในปัจจุบันให้เกิดขึ้นเท่านั้นเอง

 

10 ปี ‘แทนซื้อหวยด้วยการเก็บเงิน’...คุณจะเหมือนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวทุกปี


อาจจะฟังดูไม่น่าเร้าใจเท่าไร สำหรับแฟนพันธุ์แท้หวยไทย แค่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว จิ๊บๆ ไป ที่ซื้อมาทุกงวดนี่หวังรางวัลที่ 1 ระดับ 6 ล้านบาทเท่านั้น


ลองนั่ง ‘รถยนต์เดอลอรีน’ ย้อนเวลากลับไปสัก 10 ปี คุณเคยถูกหวยกี่ครั้ง กี่งวด จากทั้งหมด 240 งวด เพราะเราเสี่ยงโชคกันเดือนละ 2 ครั้ง หลายคนอาจจำไม่ได้ หลายคนอาจจะไม่ได้จำ หลายคนไม่เคยจดสถิติเอาไว้ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าจำนวนครั้งที่ถูกมันน้อยมาก ถึงไม่เคยถูกเลย เส้นทางนี้...อาจไม่ใช่ ‘เหตุแห่งความรวย’ หรือ ‘ความมั่งคั่ง’ ของคุณแล้วล่ะ


“แต่ถ้าช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา คุณเก็บเงินซื้อหวยทุกงวดๆ ละใบ 80 บาท (โชคดีเจอเจ้าขายไม่เกินราคา) เดือนละ 2 งวด ก็ตกเดือนละ 160 บาท เก็บครบ 1 ปี คุณจะมีเงิน 1,920 บาท อาจดูไม่มาก แต่นี่ก็น้องๆ รางวัลเลขท้าย 2 ตัว (รางวัลละ 2,000 บาท) แล้ว นั่นเท่ากับในช่วง 10 ปี คุณจะเหมือนถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวทุกปีๆ ละครั้ง รวมเป็นเงิน 19,200 บาท นั่นเอง เปลี่ยนจาก ‘เสี่ยงโชค’ ที่ไม่รู้จะถูกสักกี่งวด มาเก็บเงินแบบนี้ การันตีขั้นต่ำถูกทุกปีดีกว่าเห็นๆ ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยด้วย”

 

10 ปี ถ้าไม่ลงทุนใน ‘หุ้นไทย’ คุณเหมือนทำผลตอบแทนหายไปเฉลี่ยปีละ 18.50%


เราลองตั้งเวลาจาก ณ วันที่ 31 มี.ค. 19 ย้อนกลับไป 10 ปี เลยรู้ว่า...ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนรวม (SET TRI) เฉลี่ยอยู่ที่ 18.50% ต่อปี ยังคงเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าโดยเปรียบเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ นั่นหมายความว่า...ถ้า 10 ปีที่แล้ว คุณไม่ได้เก็บเงินของคุณลงทุนในหุ้นไทยเลย (เอาแค่ลงได้ผลตอบแทนเท่าตลาดรวม) คุณก็ได้ทำผลตอบแทนหล่นหายไปแล้วไม่มากไม่น้อยแค่ 18.50% ต่อปี เท่านั้นเอง
ถ้าคุณอยู่ในจุดของเวลาเมื่อ 10 ปีก่อน แล้วมองเห็นผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยในอีก 10 ปีข้างหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 18.5% ต่อปี ถามว่าคุณจะลงทุนมั้ยในตอนนั้น? แต่แน่นอน...ไม่มีใครรู้อนาคตนี่นา


มาดูกันอีกครั้ง ถ้าคุณไม่อยากได้แค่รางวัลเลขท้าย 2 ตัว แค่ปีละครั้ง แล้วเอาเงินซื้อหวยงวดละ 80 บาท ไปลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้วได้ผลตอบแทนเท่าตลาด (SET TRI) ที่ 18.5% ต่อปี ผ่านไป 10 ปี เงินจะโตเป็น 55,160 บาท หักเงินต้น 19,200 บาท ก็ได้ผลตอบแทนไป 35,960 บาท เสมือนถูกน้องๆ รางวัลที่4 (รางวัลละ 40,000 บาท) ในช่วง 10 ปี เรียกว่า...ได้รางวัลใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย


แต่ถ้ารางวัลยังไม่ใหญ่พอ ไม่จูงใจ เอารางวัลที่ 1 (รางวัลละ 6 ล้านบาท) ไปเลยล่ะกัน แบบมีลุ้นด้วย แค่คุณเลือกเปลี่ยนเงินซื้อหวยทุกงวดไปลงทุนใน ‘กองหุ้น’ ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยแค่ 10% ต่อปี ก็พอ (ลดผลตอบแทนลงล่ะนะ) แล้วเพิ่มเงินลงทุนแต่ละงวดเป็น 577 บาท วันหวยออกก็ลงทุนไปจนครบ 38 ปี เงินจะโตเป็น 6 ล้านบาท (นับรวมเงินต้นแล้ว) ก็ยังดีกว่าซื้อหวยทุกงวดไป 38 ปี แล้วไม่มีลุ้นรางวัลที่1 เลย หรือคุณว่าไม่จริง?


“ถ้ามีเหตุให้รวย...พรุ่งนี้อาจจะรวยได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าไร้เหตุที่จะส่งผลให้รวย วันนี้ยังไม่รวยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด แทนเอาเงินไปซื้อหวยทุกครึ่งเดือน ก็เอาไปลงทุนใน ‘กองหุ้น’ แทนดีกว่า”

 

“เจาะเวลา”...หาผลตอบแทนกัน


เมื่อ ‘เสี่ยงโชค’ ไม่ใช่หนทางแห่งความรวย หรือ ‘ความมั่งคั่ง’ ก็ควรเปลี่ยนแนวทางมาสู่ ‘การลงทุน’ ซึ่งเป็นหนทางที่ยังสามารถจะตอบโจทย์ได้ในโลกของความเป็นจริง ตัวเลข 80 บาท สำหรับซื้อหวยในแต่ละงวดนั้น อาจไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายนักก็จริงอยู่ แต่ก็เป็นตัวเลขที่เชื่อว่า...คนไทยส่วนใหญ่สามารถเปลี่ยนมาสู่การลงทุนได้จริง


แน่นอน...หากความฝันคุณใหญ่กว่านั้น เพียงเปลี่ยนเม็ดเงินในการลงทุนของคุณให้ใหญ่ขึ้น เมื่อบวกกับ ‘ความสม่ำเสมอ’ ของการลงทุน ไม่ต่างกับที่เคยใช้วินัยไปกับการเสี่ยงโชคซื้อหวยเดือนละ 2 ครั้ง ก็จะทำให้คุณขยับเข้าสู่เป้าหมายการเงินของตัวเองได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย


สำหรับคนที่อยากจะรวยในอนาคต “หุ้น”...เป็นมรรคาการลงทุนที่คุณมิอาจปฏิเสธได้ มีการศึกษาทั้งต่างประเทศและในประเทศ ตัวเลขเชิงประจักษ์ก็ยืนยันว่า... “หุ้น” เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นโดยเปรียบเทียบในระยะยาวจริงๆ แต่ในระยะสั้นก็จะมี ‘ความผันผวน’ เป็นธรรมดา เพราะ ‘ผลตอบแทน’ และ ‘ความเสี่ยง’ นั้นเป็นคู่กัน


หากดูผลตอบแทนของกลุ่มกองทุนประเภทต่างๆ (ณ 31 มี.ค. 19) ย้อนหลังไป 10 ปี นั้น พบว่า กลุ่ม ‘กองหุ้น’ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด 13.48% ต่อปี ตามมาด้วยกลุ่ม ‘กองผสม’ ให้ผลตอบแทน 11.12% ต่อปี ส่วนกลุ่ม ‘กองตราสารหนี้’ ให้ผลตอบแทน 2.20% ต่อปี ตามมาด้วยกลุ่ม ‘กองตราสารตลาดเงิน’ ที่ 1.53% ต่อปี ในขณะที่กลุ่ม ‘สินค้าโภคภัณฑ์’ ให้ผลตอบแทนติดลบ 0.25% ต่อปี


ย้อนกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ณ จุดนี้มองไปข้างหน้าอีก 10 ปี แน่นอน...ไม่มีใครรู้อนาคต เหมือนตอนคุณย้อนเวลากลับไป ณ จุดเริ่มต้นของเวลาเมื่อ 10 ปีที่แล้วเช่นกัน จริงมั้ย? ปัจจุบัน...คือผลของอดีต แต่ปัจจุบัน...จะเป็นเหตุแห่งอนาคต ไม่ต้องรอ... “พรุ่งนี้รวย” ไม่ต้องรอ... “วันนี้รวย” เพียงดูว่าคุณยืนอยู่บนเหตุสู่หนทางของความรวยหรือความมั่งคั่งหรือยังในวันนี้?


“เงิน 80 บาท ลงทุนในกองทุนหุ้นได้หรือ? กองหุ้นที่บริหารเชิงรับ (Passive Fund) บางกอง มีขั้นต่ำการลงทุนครั้งแรกแค่ 1 บาท เท่านั้นเอง คุณรู้หรือเปล่า? นี่มีตั้ง 80 บาท สบายใจได้เลยนะ”


แนะนำให้มองการลงทุนเป็นพอร์ตรวม คุณอยากมี “หุ้น” เท่าไร กี่เปอร์เซ็นต์ ในสัดส่วนของหุ้นที่อยากจะมีนั้น จะเป็นหุ้นอะไร
‘ในประเทศ’ หรือ ‘ต่างประเทศ’ สัดส่วนเท่าไร แล้วในหุ้นประเภทนั้น ‘กองหุ้น’ อะไรที่น่าสนใจ มีผลงานที่ดีสม่ำเสมอที่จะมาตอบโจทย์คุณได้ ก็ค่อยเข้าไปเลือกดูในระดับกองทุนอีกครั้ง “อย่าพลาด"...การลงทุนที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายกับชีวิตคุณที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 10 ปี ข้างหน้าอีกเลยนะ