Hightlight
- บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เตรียมจ่ายปันผลงวดปี 61 เป็นเงินสดในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น
- โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เมษายน และกำหนดจ่ายปันผล 15 พฤษภาคมนี้
- ประเมินรายได้เติบโต 15-20% จากการเพิ่มสินค้าใหม่ต่อเนื่อง
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2561 ในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 29 เมษายน และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 บริษัทฯให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งด้านวิจัยและพัฒนา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าทั้งในส่วนของสินค้าปัจจุบันและสินค้าใหม่ ที่เตรียมนำออกมาวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น
นอกจากนี้ยังเตรียมกลับเข้าไปรุกตลาดเครื่องดื่ม แบรนด์ "Zenya" ในกัมพูชาอีกครั้ง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี โดยวางเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 15-20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,295.58 ล้านบาท
แนวโน้มธุรกิจในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากผลเชิงบวกของสภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนั้นพร้อมกลับเข้าไปทำตลาดเครื่องดื่มแบรนด์ Zenya ในกัมพูชาอีกครั้ง โดยมี Distributor รายใหม่ที่แข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากหยุดทำการส่งออกไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว
รายได้หลักของ TACC
ทั้งนี้รายได้หลักของ TACC ยังคงมาจากการวางจำหน่ายสินค้าในร้าน 7-Eleven ทั้งในส่วนของเครื่องดื่มเย็นในโถกด เครื่องดื่มชงสดในมุม All Cafe ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้จากการขายเครื่องดื่มช็อกโกแลต Hershey's ที่วางจำหน่ายเต็มปีเฉพาะสาขาที่มีจำหน่าย หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมาในฐานะเครื่องดื่มเฉพาะกาล และในปีนี้คาดว่าจะมีสินค้าตัวใหม่ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนสินค้าในกลุ่มเบเกอรี่ที่วางจำหน่ายในร้าน 7-Eleven ปัจจุบันมีสินค้าอยู่ 2 ประเภทคือ Twist Donut และ Donut POP ซึ่งจะมีหลากหลายรสชาติใหม่ ๆ เข้ามาต่อเนื่อง
ในส่วนของธุรกิจคาแรคเตอร์กลุ่ม San-x ที่บริษัทฯ ได้รับสิทธิการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ระยะเวลา 5 ปี ครอบคลุม 7 ประเทศ ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ โดยจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 50 ราย รวมทั้งได้รับการตอบรับจากแบรนด์และบริษัทชั้นนำเป็นอย่างดี เช่น 7-Eleven เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ นีเวียครีม ดัชมิลล์ และเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส Hygiene เป็นต้น
และในปีนี้เตรียมส่งสินค้าคาแรคเตอร์ตัวใหม่บุกตลาดเพิ่มเติม ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี และมีแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งถือเป็นระเทศที่มีกำลังซื้อ และมีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเช่นเดียวกับประเทศไทย หนุนยอดขายในกลุ่มธุรกิจคาแรคเตอร์ในปีนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง