“AECS” มองปัญหาสงครามการค้าทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

>>

Hightlight 

  • บล.เออีซี มองตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงต่อ
  • อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยบวกจากกลุ่ม OPEC ส่งสัญญาณขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงไปจนถึงปลายปีนี้หลังการประชุมที่ซาอุฯ เสร็จสิ้น    
  • ท่ามกลางความผันผวนแนะนำลดพอร์ตการลงทุน ถือเงินสดให้มากขึ้น   

 

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS  ระบุว่า  ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากปัจจัยกดดันการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของ Bloomberg Consensus ซึ่งจะทำให้ EPS ของ SET Index ปรับตัวลดลง PE ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ Valuation ไม่น่าสนใจ  และปัญหาสงครามการค้าทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น  อีกทั้งแนะจับตาประเด็นการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ หากเกิดกรณีสัดส่วนใกล้เคียงกันระหว่างจำนวนส.ส. และฝ่ายค้าน

 


ส่วนปัจจัยต่างประเทศ สหรัฐฯ ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติโดยออกคำสั่งห้ามใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมของบริษัทหัวเว่ยและบริษัทในเครือ เพื่อความมั่นคงทางด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ส่วนจีนนั้นตอบโต้สหรัฐฯ โดยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯด้วยอัตราภาษีที่ระดับ 20-25% มูลค่าสินค้า 6หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 มิถุนายน 2562 หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่ระดับ 25% มูลค่าสินค้า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

 

อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยบวกจากกลุ่ม OPEC ส่งสัญญาณขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงไปจนถึงปลายปีนี้หลังการประชุมที่ซาอุฯ เสร็จสิ้น โดยก่อนหน้านี้กลุ่ม OPEC รัสเซียและพันธมิตรตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นระยะเวลา 6 เดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นและรักษาระดับราคาน้ำมันไม่ให้อ่อนตัว ดังนั้นท่ามกลางความผันผวนแนะนำลดพอร์ตการลงทุน ถือเงินสดให้มากขึ้น หากดัชนีย่อแถว 1,600 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นกลุ่ม Defensive กลุ่ม Growth Stock และกลุ่มที่มูลค่ายังไม่แพง