“Principal”…The Beginning of New Chapter ‘Live Your Best Life’
>>
“พรินซิเพิล ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (Principal Financial Group)” หนึ่งในกลุ่มบริการทางการเงินระดับโลกที่อยู่ในทำเนียบ Fortune500 ที่มีลูกค้ามากกว่า 24 ล้านราย ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 645 พันล้านดอลลาร์ ได้ฤกษ์ดีวันที่ 17 มิ.ย. 19 ปรับโฉมใหม่และชื่อใหม่อย่างเป็นทางการจาก ‘บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล’ เป็น ‘บลจ.พรินซิเพิล (Principal)’ ภายใต้โลโก้สีฟ้าสดใส ให้สอดรับกับการที่กลุ่มพรินซิเพิลได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 60% ในขณะที่ ‘CIMB Group’ ยังรักษาสัดส่วนไว้ที่ 40% ในปี2018 ที่ผ่านมา ทีมงาน Wealthythai ไม่พลาดที่จะเก็บข้อมูลดีๆ มาฝากกันเช่นเคย
เข้ามารุกธุรกิจในเอเชียเมื่อ 15 ปีก่อน...โดยมี ‘CIMB’ เป็นพันธมิตรที่สำคัญ
การปรับโฉมธุรกิจบริหารสินทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งไทยเพื่อสร้างความโดดเด่นในการทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดย ‘พรินซิเพิล’ ยังคงทำการตลาดด้วยความเป็นพันธมิตรกับ ‘CIMB’ ภายใต้แบรนด์ “พรินซิเพิล (Principal)” โดยก่อนจะมีการปรับแบรนด์ใหม่ในไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ (17 มิ.ย. 19) ได้มีการปรับโฉมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. และที่กรุงจาการ์ตาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมาตามลำดับ
“โทมัส ชอง” ประธานภูมิภาคเอเชียของกลุ่มพรินซิเพิล บอกว่า ช่วงต้นทรรษวรรษที่90 ‘พรินซิเพิล’ มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและกองทุนบำเหน็จบำนาญชั้นนำของโลกเพื่อมอบบริการการออมระยะยาวแก่ลูกค้า ถึงวันนี้เราบริหารสินทรัพย์การออมเพื่อเกษียณอายุและการออมระยะยาวรวมถึงการป้องกันความเสี่ยงให้กับลูกค้าในกว่า 80 ประเทศ ทั่วโลก เราเข้ามาทำธุรกิจในเอเชียมา 15 ปีที่แล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจาก ‘CIMB’ จนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 6.08 แสนล้านบาท (ณ วันที่ 30 เม.ย. 19) ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีวิสัยทัศน์และการทำงานของพนักงานและผู้บริหารของ ‘CIMB’ และธุรกิจร่วมทุนนี้ได้กลายเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำในระดับภูมิภาคอาเซียนไปแล้ว
“การช่วยลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินในชีวิตเป็นหัวใจที่ ‘พรินซิเพิล’ เป็นความมุ่งมั่นที่ไม่เคยเปลี่ยนไป นับตั้งแต่ที่เราเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ 140 ปีที่แล้ว”
“อาเซียน”...เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ ‘พรินซิเพิล’
“ฮวน อิกนาซีโอ อีย์ซากีร์เร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล ภูมิภาคอาเซียน มองว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นกลยุทธ์สำคัญของ ‘พรินซิเพิล’ ประเมินว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจะเติบโตถึง 4 ล้านดอลลาร์ ภายในปี2025 ในขณะที่มีโอกาสก็มีความท้าทายเช่นกัน เช่น โครงสร้างประชากรที่สูงอายุอย่างรวดเร็ว ความรู้ทางการเงินโดยรวมที่ยังมีน้อย และความเชื่อมั่นที่ต่ำในเครื่องมือทางการเงิน เช่น กองทุนรวม แต่ ‘พรินซิเพิล’ เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างความก้าวหน้าทางการเงินให้กับทุกคนได้ เราพร้อมจะสร้างความฝันให้เป็นความจริงด้วยความมั่นคงทางการเงิน
“เรามีประสบการณ์มากกว่าหนึ่งศตวรรษในการหาทางออกทางการเงินในระยะยาวให้กับลูกค้าที่มีพื้นเพชีวิตที่หลากหลาย มีความต้องการและความฝันที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงชีวิต เราสามารถสร้างทางออกในการลงทุนให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ในช่วงชีวิตหรือสาขาอาชีพใดหรือมีรายได้หรือขนาดเงินลงทุนเท่าไรก็ตาม ‘CIMB’ ช่วยสร้างให้เราเป็นที่รู้จักในภูมิภาค และช่วยสร้างธุรกิจของเราในไทย และในขณะที่ ‘พรินซิเพิล’ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่เป้าหมายของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง และตอนนี้ผ่านทาง ‘พรินซิเพิล’ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลัก เราสามารถนำมุมมองจากทั่วโลก และความสามารถในการจัดการสินทรัพย์เข้ามาในภูมิภาคเอเชียได้มากยิ่งขึ้น”
“CIMB”…มุ่งหวังให้ลูกค้าประสบความสำเร็จทางการเงินในทุกช่วงชีวิตเช่นเดียวกับ ‘พรินซิเพิล’
“อดิศร เสริมชัยวงศ์” รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บอกว่า แม้ว่าเราจะเป็นหุ้นส่วนที่แตกต่างกันในรากฐานและความเป็นมา แต่ทั้ง ‘CIMB’ และ ‘พรินซิเพิล’ ก็มีความมุ่งมั่นในภารกิจเดียวกัน ในการเข้าถึงลูกค้าเราในทุกช่วงชีวิตของเขา ในขณะที่เราช่วยให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าสู่ ‘อิสรภาพทางการเงิน’ และ ‘ความมั่งคั่ง’ ที่มากขึ้น โดยเน้นรูปแบบการทำงานที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องไปสู่ทางการเลือกการลงทุนแบบต่างๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง ทันสมัย และมีความแตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการในระยะยาวของนักลงทุนรายย่อยและการลงทุนของนักลงทุนสถาบันในไทย
“บทบาทร่วมทุนของ ‘พรินซิเพิล’ ในธุรกิจร่วมทุนนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศในด้านการลงทุนและความสามารถของ ‘CIMB’ ในการเข้าถึงตลาดโลกและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุน ในขณะที่ทีมผู้บริหารของ ‘พรินซิเพิล’ จะเข้าถึงและทำงานกับคู่ค้าไทยและในระดับภูมิภาคเพื่อพัฒนาธุรกิจและดำเนินกลยุทธ์ในการเพิ่มการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล”
ปรัชญาของ ‘พรินซิเพิล’…คือแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ ‘บลจ.พรินซิเพิล’
ด้าน “จุมพล สายมาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.พรินซิเพิล จำกัด มองว่า ในช่วงที่ผ่านมานั้นธุรกิจจัดการกองทุนในไทยเติบโตขึ้นมากจาก 4 ปัจจัย ได้แก่
- การมีชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นทำให้ความมั่งคั่งของครัวเรือนสูงขึ้น
- หน่วยงานกำกับดูแลเองก็มีการผ่อนคลายกฎระเบียบเอื้อให้ธุรกิจมีการเติบโต
- การที่คนไทยอ่านออกเขียนได้ทางการเงินมากขึ้น มีแนวโน้มมองหาแบบแผนการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวมากกว่าจะแสวงหากำไรในระยะสั้น และ
- การที่เราเข้าสู่สังคมผู้มีอายุยืนยาวขึ้น
ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมยิ่งที่เราจะเพิ่มความมุ่งมั่นในด้านการบริการลูกค้าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงิน
“ปรัชญาของ ‘พรินซิเพิล’ เน้นการลงทุนระยะยาว ไม่ได้วัดผลสำเร็จของการลงทุนที่เน้นเป้าหมายจากการสร้างผลกำไรได้มากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่จากการที่ลงทุนอย่างหลากหลายแบบผสมผสานโดยเน้นที่เป้าหมายของ ‘ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น และนั่นจะเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ ‘บลจ.พรินซิเพิล’ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการที่เราปรับแบรนด์เป็น ‘พรินซิเพิล’ ก็เท่ากับเรามุ่งช่วยลูกค้าให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน โดยที่เราสามารถสร้างส่วนผสมของการลงทุนระหว่างความเชี่ยวชาญของการลงทุนในประเทศและความสามารถและมุมมองในระดับโลกที่จะช่วยให้เข้าถึงคำแนะนำและเครื่องมือที่ดีที่สุด”
ดังนั้นเป้าหมายความสำเร็จของผู้ลงทุนจึงเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทมากกว่าในเรื่องของการเติบโตของสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) โดยเราปรารถนาต้องการจะให้ทุกคนมีชีวิตการเป็นอยู่อย่างดีที่สุด "Live Your Best Life" เป็นสำคัญ แต่ในเบื้องต้นเราก็ตั้งเป้าว่าในปีนี้น่าจะมีการเติบโตขึ้นได้ประมาณ 17%