สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการเปิดตัว “ONE Eternity” สำหรับกลุ่มลูกค้า High Net Worth (HNW) ของ ‘บลจ.วรรณ’ ในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. 19 ที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง ‘บมจ.การบินไทย’ , ‘บจ.เดอะวันเซ็นทรัล’ , ‘ธ.อาคารสงเคราะห์’ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ทางการตลาดเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมกองทุนรวม เมื่อลงทุนผ่าน ONEAM Mobile Application ซึ่งทีมงาน ‘ Wealthythai’ ไม่พลาดที่จะเก็บตกเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากกันเช่นเคย

Wealthythai : ที่ไปที่มาของ “ONE Eternity”?

พจน์ : (ยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนตอบว่า...) เราเป็นบลจ.ที่กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคแรกของอุตสาหกรรมกองทุน กลุ่มลูกค้าของเราค่อนข้างจะอยู่กันมาอย่างยาวนาน เราก็อยากจะทำอะไรเพื่อตอบแทนกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีอยู่ประมาณ 300 – 400 ราย เป็นกลุ่ม ‘ลูกค้าระดับบน (High Net Worth :HNW)’ ของบริษัท จึงเกิดเป็น ‘ONE Eternity’ ขึ้นมา ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้สูงและเป็นฐานลูกค้าส่วนบุคคลที่มีศักยภาพและยืดหยุ่นสูงในการลงทุนต่างประเทศ โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์แบบ ‘Alternative Investment’ พิเศษเฉพาะลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ

Wealthythai : นอกเหนือจากการลงทุนแล้ว ทราบว่ามีการดูแลในเรื่องอื่นๆ ด้วย

พจน์ : (หัวเราะชอบใจ) ลูกค้ากลุ่ม ‘ONE Eternity’ นี้ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่เก่าแก่อยู่กับเรามายาวนานตั้งแต่ยุคตั้งบริษัทก็มี ดังนั้นนอกจากจะได้รับคำแนะนำการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวโดยเฉพาะแล้ว ยังได้รับ ‘สิทธิประโยชน์’ ทางการตลาดอื่นๆ เพิ่มเติม เมื่อลงทุนผ่าน ‘ONE Mobile Application’ ตัวอย่างเช่น ได้รับสิทธิพิเศษในการแลกรับไมล์สะสม รอยัล ออร์คิด พลัส (ROP) และถือเป็นรายแรกในอุตสาหกรรมกองทุนรวมให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าว

“นอกจากนี้ หากเป็นลูกค้าของบริษัทและมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดยังได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับการขอสินเชื่อบ้านจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะกู้ด้วยดอกเบี้ยที่ถูกกว่า หรือระยะผ่อนที่นานกว่า เป็นต้น นี่ก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะตอบแทนให้กับผู้ลงทุนของเรานั่นเอง”

Wealthythai : ตัวอย่างโพรดักต์ที่ทางบริษัทนำมาเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้า ‘ONE Eternity’

พจน์ : หนึ่งในตัวอย่างที่เป็น Alternative Investment สำหรับลูกค้ากลุ่ม ‘ONE Eternity’ คือ กองทุนที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนแรกในประเทศไทยที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก(Alternative) ประเภทนี้ ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 7-10% ต่อปี เป็นต้น ซึ่งกองทุนกลุ่มนี้จะถูกจัดไว้ใน Universe การลงทุนของเราเลยสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้

“นอกจากนี้เราก็จะมองหาสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรต่างประเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อทำ Asset Allocation อื่นๆ ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้”

Wealthythai : ย้อนกลับมาถึงช่องทางดิจิทัลของบริษัทเอง ตอนนี้พัฒนามาถึงไหนแล้ว?

พจน์ : (ตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า...) ปัจจุบันบริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมผ่านทาง ‘Mobile Application phase 2’ เพื่อขยายฟังก์ชั่นการใช้งานและรองรับระบบที่ลิงค์กับพันธมิตรและสิทธิประโยชน์อื่นๆ สมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานเป็นที่เรียบร้อย โดยมี ‘จุดเด่น’ ที่แตกต่างจากที่อื่นคือ คือ ‘การทำธุรกิจซื้อ / ขายกองทุนรวมล่วงหน้า ( Auto Buy/Sell)’ ซึ่งเป็น ‘บลจ.รายแรก’ ในประเทศไทยที่สามารถพัฒนาระบบซื้อขายล่วงหน้าธุรกิจกองทุนรวม โดยได้ราคา NAV ณ วันที่ทำรายการทันที ไม่ต้องรอทำรายการวันถัดไป

นอกจากนี้ Mobile Application phase 2 ยังพัฒนาระบบการ ‘เปิดบัญชีออนไลน์ (Non-Face Account Opening)’ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับลูกค้าไม่เสียเวลาเดินทางเพื่อกรอกเอกสารที่บริษัทด้วยตัวเองอีกต่อไป

“ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ลงทุนผ่าน ONE Mobile Application ยังสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางการตลาดควบคู่ไปด้วยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เคมเปญ ‘กิน เที่ยว ช็อป : Happiness All in ONE’ โดยมีกำหนดการเปิดตัวเคมเปญดังกล่าวผ่านทางสื่อออนไลน์เร็วๆ นี้ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงเข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”