“บลจ.ไทยพาณิชย์”...ปันผล 3 ‘กอง LTF’ มูลค่ารวมกว่า 503 ล้านบาท

>>

“บลจ.ไทยพาณิชย์”...แนะทยอยลงทุน กอง LTF’ ใช้ประโยชน์ภาษีเป็นปีสุดท้าย พร้อมปันผล 3 กอง LTF ‘SCBLTT – SCBLT1 – SCBLT4 มูลค่ารวมกว่า 503 ล้านบาท รับเงินพร้อมกัน 18 ก.ค. นี้


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด
เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 18 - 30 มิ.ย. 19 รวมมูลค่าประมาณกว่า 503 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยในวันที่ 18 ก.ค. 19 นี้ ประกอบด้วย

  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT)’ ในอัตรา 0.4000 บาทต่อหน่วย โดยได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 19 ไป แล้วในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ในอัตรา 0.3000 บาทต่อหน่วย ซึ่งการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 18 รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 4.3600 บาทต่อหน่วย



  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) ในอัตรา 0.3600 บาทต่อหน่วย ซึ่งที่ผ่านมามีได้มีการจ่ายผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 19 ไปแล้วในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ในอัตรา 0.2600 บาทต่อหน่วย ซึ่งการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 23 รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 5.2350 บาทต่อหน่วย



  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ (SCBLT4) ในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย โดยได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 19 ไปแล้วในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย เหลือจ่ายงวดนี้ในอัตรา 0.1000 บาทต่อหน่วย ซึ่งการจ่ายปันผลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 15 รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 3.1200 บาทต่อหน่วย

         
“ด้านผลการดำเนินงานของทั้ง 3 กองทุนดังกล่าวตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ‘กอง SCBLTT’ มีผลตอบแทนอยู่ที่ 13.55% ‘กอง SCBLT1’ มีผลตอบแทนอยู่ที่ 10.11% และ ‘กอง SCBLT4’ มีผลตอบแทนอยู่ที่ 12.94% (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ก.ค. 19)”

           
นายณรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปี19 นี้ นักลงทุนยังควรลงทุนในกองทุน LTF เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีซึ่งสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษีและไม่เกิน 500,000 บาท โดยแนะนำให้มีการกระจายการลงทุนอย่างต่อเนื่องไม่ควรลงทุนโดยใช้เงินทุนครั้งเดียวในภาวะตลาดที่มีความผันผวนเช่นปัจจุบัน และหากสิ้นปี19 นี้ กรมสรรพากรไม่ต่ออายุสิทธิลดหย่อนภาษีในการซื้อกองทุนLTF กองทุนยังคงมีสถานะตามกฎหมาย โดยอาจถูกแปลงสภาพเป็นกองทุนเปิด ซึ่งสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ผู้ลงทุนยังสามารถลงทุนเพิ่มได้ แต่เงินใหม่ที่เข้ามาจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีประจำปี


 
( นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย )

“สำหรับผู้ที่ลงทุนก่อนปี19 ก็ยังคงถือครองตามเงื่อนไขเดิม คือ 7 ปีปฏิทินเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ภาษี ถึงแม้ว่าไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในกองทุน LTF  แต่มูลค่าสินทรัพย์หรือราคาต่อหน่วย จะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับขนาดกองทุน เนื่องจากหน่วยกองทุน LTF จะแตกต่างจากราคาของหุ้นที่สามารถเพิ่มหรือลดได้จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มลด (Dilution effect) แต่ราคาต่อหน่วยจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุน”