SQ คว้าสิทธิ์เหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” หนุนรายได้อีก 27,000 ล้านบาท เล็งดันบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

>>

บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ ผู้รับเหมางานเหมืองแร่อันดับ 1 ของอาเซียน ก้าวขึ้นสู่เจ้าของเหมืองถ่านหินครั้งแรก โดยนายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SQ กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (Memorandum or Understanding) กับ บริษัท Golden Lake Co., Ltd หรือ (GL) เพื่อร่วมทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ ภายใต้ชื่อ Mai khot coal company โดยSQ จะถือหุ้นใหญ่ 70% ภายใต้งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท และ GL ถือหุ้น 30% ซึ่งระยะแรกจะมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ



ทั้งนี้เพื่อรับสิทธิทำเหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” ( Mai Khot Coal Mine) ซึ่งตั้งอยู่ที่ รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า โดยเหมืองถ่านหิน “เมืองก๊ก” มีขนาดใหญ่ ถึง 13 ตารางกิโลเมตร และคาดการณ์ในเบื้องต้นว่ามีปริมาณถ่านหินทางธรณีวิทยา ประเภท ซับบิทูมินัส และลิกไนต์ ประมาณ 100 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเพียงพอสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และสำหรับจำหน่ายให้กับกลุ่มบริษัทต่างๆ ที่ปัจจุบันซื้อถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซีย โดยมีต้นทุน ค่าขนส่งที่สูงกว่าถ่านหินที่เหมือง “เมืองก๊ก” มาก


โดย SQ คาดว่าจะมีรายได้จากโครงการนี้ประมาณ 27,000 ล้านบาท ภายใน 28 ปี ตามแผนการทำงานในเบื้องต้น แบ่งเป็นรายได้การจำหน่ายถ่านหิน (ภายใต้บริษัทร่วมทุน) มากกว่า 22,000 ล้านบาท และ รายได้จากการรับงานทำเหมืองถ่านหิน จากโครงการนี้ในเฟสแรกประมาณร่วม 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นจาก 30,310 ล้านบาทในปัจจุบันเป็นประมาณ 35,000 ล้านบาท

 

ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มขายในช่วงกลางปี 2563 คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 3 แสนตันต่อปี ซึ่งหากประเมินราคาขายถ่านหินปัจจุบันที่ตันละประมาณ 3,000 บาท คาดว่าจะทำอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10% ดังนั้นหลังจากมียอดขายในเหมืองดังกล่าวเข้ามา จะทำให้ปี 2563 รายได้รวมมีโอกาสเติบโตมากกว่า 20% จากปี 2562 ที่คาดว่าจะเติบโต 20%

 


นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษานำบริษัทร่วมทุนดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดชัดเจนว่าจะได้ข้อสรุปจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ใด ในช่วงกลางปี 2563 โดยกำลังศึกษาในตลาดหลักทรัพย์ ไทย เมียนมา สิงคโปร์ ขณะเดียวกัน ภายในสัปดาห์หน้า บริษัทมีจะมีเซ็นสัญญารับงานใหม่ในโครงการส่วนต่อขยายเหมืองหงสา มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท และช่วงปลายปี 2562 ยังเตรียมประมูลงานในโครงการเหมืองหงสาอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโต

 

สิทธิในการทำเหมืองถ่านหิน

 


สำหรับการได้สิทธิในการทำเหมืองถ่านหิน จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญของบริษัทจากการเป็น ผู้รับเหมางานเหมืองแร่ สู่การเป็นผู้รับสิทธิพัฒนาเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีพื้นฐานธุรกิจที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นจากการมีรายได้หลัก 2 ด้าน คือรายได้จากการจำหน่าย ถ่านหินและ จากรายได้หลักคือการรับเหมาทำเหมืองแร่ภายใต้สัญญาระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย และ บริษัท หงสา พาวเวอร์ จำกัด (ในกลุ่มของ บมจ. บีพีพี พาวเวอร์) ซึ่งรองรับการรับรู้ รายได้ประมาณ 9 ปี

 

นอกจากนี้ บริษัท อยู่ระหว่างศึกษาโครงการ สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่บริเวณ เหมืองถ่านหิน เมืองก๊กนี้ โดยมีแผนยื่นขอใบอนุญาตสร้างโรงไฟฟ้ากับทางรัฐบาลกลางของสาธารณรัฐแห่ง สหภาพพม่า ซึ่งบริษัทมีกำลังการผลิตถ่านหินที่เหลือจากการขายสามารถรองรับโรงไฟฟ้าได้ถึง 600 เมกะวัตต์ คาดชัดเจนภายในปี 2562 อย่างไรก็ตามระยะแรกคาดทำโรงไฟฟ้าขนาดเล็กก่อน


โดยมองเห็นเศรษฐกิจบริเวณนั้น มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้สูง จากการเปิดประเทศของพม่า ทำให้ปริมาณการค้าที่เพิ่มมากขึ้น และ การลงทุนภาคอุตสาหกรรมกำลังจะขยายตัว และที่สำคัญยังไม่มี โรงไฟฟ้ารองรับการขยายตัวดังกล่าว ซึ่งหากโครงการนี้เป็นผลสำเร็จ SQ จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น อย่างมีเสถียรภาพ และ ทำให้ บริษัทฯมีฐานธุรกิจที่มั่นคงยิ่งขึ้น




​บริษัท สหกล อิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เป็นผู้รับเหมางานเหมืองแร่ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและภูมิภาค CLMV มีความพร้อมทั้งทางด้านบุคลากรที่มีความรู้ และความสามารถเฉพาะด้าน รวมถึงทีมงานผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเหมืองมากว่า 34 ปี และยังครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% อีกด้วย พร้อมทั้งยังมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่สามารถ ตอบสนองกับลักษณะงานเหมืองครบวงจรได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของบริษัทฯ