AIE จ่อเปิดโรงงานใหม่ไตรมาส3 หนุนอัตรากำไรขั้นต้น 4-5%

>>

Hightlight

  • บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ระบุผลงานครึ่งหลังแกร่ง รับผลบวกมาตรการรัฐสนับสนุนการใช้ B100 หนุนความต้องการใช้ไบโอดีเซลเพิ่ม
  • ล่าสุดเตรียมเดินเครื่องโรงกลั่นกลีเซอรีนบริสุทธิ์ไตรมาส 3 หนุนอัตรากำไรขึ้นต้นขึ้นอีก 4-5%
  • การันตีปี 62 ไร้ผลขาดทุน



นายณรงค์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE มองว่าทิศทางผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวดีขึ้น สอดรับกับมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยคาดว่าจะมีปริมาณการขายที่ระดับ 12 ล้านลิตรต่อเดือน เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ระดับ 6-7 ล้านลิตรต่อเดือน ซึ่งมองว่าครึ่งปีหลัง จะใช้กำลังการผลิตที่ระดับ 70-80% จากเดิมอยู่ที่ 40-50%

 


ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการทั้งปี 2562 จะไม่มีผลขาดทุนจากปี 2561 ที่ขาดทุนระดับ 72 ล้านบาท โดยคาดจะมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล หรือ B100 จะอยู่ที่ 120 ล้านลิตร เมื่อเทียบปี 2561 ที่อยู่ระดับ 68 ล้านลิตร เนื่องจากการสนับสนุนของภาครัฐในการใช้น้ำมันไบโอดีเซล (B10) กับรถที่นั่งส่วนบุคลและรถกระบะ

 

นายณรงค์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) 



รวมทั้งล่าสุดภาครัฐได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการที่ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ที่ใช้ B20 ส่งผลให้บริษัทได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับบริษัทยังมีการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้


สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่ากลีเซอรีนดิบที่ได้จากกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 100 ตันกลีเซอรีนบริสุทธิต่อวัน ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องการผลิตกลีเซอรีนบริสุทธิ์ ได้ภายในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2562 และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทขึ้นอีก 4-5% จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 1% และประเมินจุดคุ้มประมาณ 3 ปี

 



นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะนำเข้ากลีเซอรีนดิบจากประเทศมาเลเซีย โดยใช้บริการขนส่งทางเรือของบริษัท เอไอ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ AIL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AIE โดยการนำเข้ากลีเซอรีนดิบเข้ามาในประเทศบริษัทวางแผนจะนำเข้าไปจัดเก็บที่คลังน้ำมันของบริษัท เอไอ พอร์ตส์ แอนด์ เทอร์มินัลส์ จำกัด หรือ AIPT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AIE ที่จังหวัดชุมพรสำหรับปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตหอกลั่นน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ประมาณ 1,150 ตันต่อวัน โดยมีกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล 6 แสนลิตรต่อวัน และมีกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มโอเลอีน 3.5 แสนลิตรต่อวัน



“เชื่อว่าผลประกอบการปีนี้เราจะไม่ติดลบ หลังจากเราได้บริหารจัดการต้นทุนดีขึ้น และวอลุ่มการขายที่เพิ่มขึ้น ล่าสุดเราเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงงานกลีเซอรีนบริสุทธิ์ จึงคาดเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นอีก 4-5% ขณะเดียวกันในปี 63 เรามีแผนจะล้างขาดทุนสะสม หลังจากนั้นมีแผนจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในลำดับถัดไปอีกด้วย” นายณรงค์กล่าว