“กองทุนรวม”...ครึ่งแรกปี19 สินทรัพย์ทะยานแตะ 5.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2%

>>

ปี2019 เริ่มไตรมาสที่1 มาด้วยการฟื้นตัวของ ตลาดการลงทุน ก่อนที่จะกลับเข้าสู่ความผันผวนอีกครั้งในไตรมาสที่2 จากความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้


ในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่ดูไม่สู้ดีเท่าไรนั้น แต่ อุตสาหกรรม กองทุนรวมไทย ก็ยังคงเดินหน้าเติบโตได้ โดยครึ่งแรกของปี19 มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากสิ้นปี 2018


โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิเฉพาะไตรมาสที่2 ถึง 5.1 หมื่นล้านบาท รวม 6 เดือนแรกปี19 มีเงินไหลเข้าทั้งสิ้น 9.0 หมื่นล้านบาท สวนทางกับภาพของเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง

“มอร์นิ่งสตาร์” ได้สรุปภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมในครึ่งแรกเอาไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งทีมงาน ‘Wealthythai’ ย่อมไม่พลาดที่จะนำเรื่องราวที่น่าสนใจมาฝากกันเช่นเคย



“กอง FIF” ครึ่งแรกปี19... เงินไหลออกสุทธิ’ 2.9 หมื่นล้านบาท

         
“บจ.มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)”
ระบุว่า ในครึ่งแรกปี19 นั้น มีเม็ดเงินไหลเข้า กองทุนรวม ทั้งสิ้นกว่า 9.0 หมื่นล้านบาท เป็นเงินไหลเข้าจากกลุ่มกองตราสารหนี้ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยมาจากกลุ่ม กองForeign Investment Bond Fix Term’ ที่ 1.63 แสนล้านบาท และกลุ่ม ‘Mid/long term bond’ ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท


“โดยในกลุ่ม ‘Foreign Investment Bond Fix Term’ นั้นเกือบ 70% เป็นเงินจาก 3 บลจ. ใหญ่ คือ บลจ.ไทยพาณิชย์’, บลจ.บัวหลวง และ บลจ.กสิกรไทย ในขณะที่กลุ่ม ‘Mid/long term bond’ ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลเข้าจาก บลจ.ทหารไทย สูงถึง 1.8 หมื่นล้านบาท และมาจาก กอง TMB Aggregate Bond’ ทั้งสิ้น”


สำหรับ กองทุนรวมต่างประเทศ : FIF (ไม่รวม Term Fund)’ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเกือบ 6.0 แสนล้านบาท ลดลง -11.1% จากเดือนมิ.ย.18  โดยเกิดจากขายกองทุนกลุ่มใหญ่อย่าง ‘Global Allocation’ และ ‘Global Bond’ ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงค่อนข้างมาก -27.3% และ -35.4% ตามลำดับ


ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา กอง FIF’ (ไม่รวม Term Fund) มีเงินไหลออกสุทธิรวม -2.9 หมื่นล้านบาท มีเพียง 4 กลุ่ม เท่านั้นที่ยังมีเงินไหลเข้าอยู่ นำโดย

  • ‘Property - Indirect Global’ เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุด 1.4 หมื่นล้านบาท และด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยของกลุ่มที่ค่อนข้างสูง (YTD 14.7%) ทำให้มูลค่าทรัพย์สินกองทุนกลุ่มนี้ปรับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของตลาดกองทุนต่างประเทศในปัจจุบัน

  • ‘Foreign Investment Miscellaneous’ (เป็นกลุ่มที่รวมกองทุนที่มีลักษณะไม่เข้าเกณฑ์กลุ่มอื่น) มีเงินไหลเข้าสุทธิราว 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเกิดจากเงินไหลเข้ากองทุนเปิดใหม่ที่มีลักษณะความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน


ทางด้าน เงินไหลออกสุทธิยังคงเป็นกลุ่มเดิมจากช่วงที่ผ่านมา ได้แก่

  • กองผสมโลก (Global Allocation) มีเงินไหลออกสุทธิสูงสุด -2.8 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงินไหลออกจากกลุ่มนี้ต่อเนื่อง 16 เดือน (ผลตอบแทน YTD 4.5%)

  • กองตราสารหนี้โลก (Global Bond) แม้ว่าเดือนมิ.ย. จะเป็นเดือนแรกในรอบ18 เดือนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ แต่หากรวมรอบครึ่งปีแรกนี้ยังคงเป็นเงินไหลออกสุทธิ -5.4 พันล้านบาท

 


“กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์”...โชว์ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด
20.92%


ช่วง 6 เดือนแรกปี19 ทุกกลุ่มกองทุนให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวก โดยกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงให้ผลตอบแทนค่อนข้างโดดเด่น สำหรับกลุ่มกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  • กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property Indirect)’ ผลตอบแทนเฉลี่ย 20.9%
  • กองเทคโนโลยีโลก (Global Technology)’ ผลตอบแทนเฉลี่ย19.31%
  • กองทุนน้ำมัน (Commodities Energy)’ ผลตอบแทนเฉลี่ย 16.60%
  • กองหุ้นยุโรป (Europe Equity)’ ผลตอบแทนเฉลี่ย 16.59%
  • กองหุ้นจีน (China Equity)’ ผลตอบแทนเฉลี่ย 15.35%


“ส่วนกลุ่มกองทุนที่มีผลงานท้ายตารางนั้น ยังเป็นกลุ่ม กองตราสารหนี้ ที่มีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนก็ต่ำด้วยเช่นกัน แต่โดยภาพรวมก็ถือว่ายังคงดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปอยู่นั่นเอง”

 


“กอง
LTF” ครึ่งแรกปี19…มีเงินไหลออกสุทธิ 1.4 หมื่นล้านบาท

         
สำหรับกลุ่ม “กองทุนประหยัดภาษี (Tax Fund)” นั้น ในส่วน กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)’ (ณ มิ.ย. 19) มีจำนวน 93 กอง สินทรัพย์สุทธิรวมกันกว่า 4.0 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากสิ้นปี18

           
ส่วนกลุ่ม กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นั้น มีจำนวน 213 กอง มีสินทรัพย์สุทธิรวมกัน 2.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากสิ้นปี18

           
“โดยกลุ่ม ‘RMF-หุ้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% ‘RMF-ตราสารหนี้ 8.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4%

           
“ในไตรมาสที่2/19 มีเงินไหลออกจาก กอง LTF’ ทั้งสิ้น -7.6 พันล้านบาท รวมเงินไหลออกสุทธิครึ่งปีแรก -1.4 หมื่นล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีเงินไหลออกสุทธิเพียง -4.9 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุจากนักลงทุนขายทำกำไรตามตลาดที่ปรับตัวขึ้น ทำให้มีเงินไหลออกในเดือนมิ.ย. ค่อนข้างมากราว -5.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นภาพที่ต่างจากปกติของทุกปีที่มักจะเป็นเงินไหลเข้าในเดือนนี้”

           
สำหรับ กอง RMF’ นั้นมีเงินไหลเข้าสุทธิช่วงไตรมาสที่2/19 ราว 6.5 พันล้านบาท รวมครึ่งปีแรกเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ 8.0 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินไหลเข้า ‘RMF –ตราสารหนี้ 7.1 พันล้านบาท


“ผลตอบแทนเฉลี่ย กอง LTF’ เฉลี่ยสะสมครึ่งปีแรกยู่ที่ 10.0% ในขณะที่ ‘RMF-หุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 11.4% ทั้งนี้จะเห็นว่า ‘กอง RMF – หุ้น’ ที่เน้นลงทุนหุ้นไทยส่วนใหญ่ยังมีผลตอบแทนใกล้เคียงกับ ‘กอง LTF’ รวมทั้งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีกว่าในระยะยาวอีกด้วย”


ทั้งหมดนี้คือ บทสรุปเพียงบางส่วนของอุตสาหกรรม “กองทุนรวมไทย” ในช่วงครึ่งแรกปี19 ที่น่าสนใจ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อย