ในเดือนกันยายน ปี 2561 ที่ผ่านมา มีข่าวสะเทือนวงการธุรกิจในประเทศไทย โดย Reuters รายงานว่า “Grab ประเทศสิงคโปร์” ผู้นำธุรกิจด้านเทคโนโลยีการขนส่ง อยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้น “Grab ประเทศไทย” ให้กับ “เซ็นทรัล กรุ๊ป” (Central Group) เจ้าพ่อธุรกิจรีเทลในไทย ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ออกมาให้รายละเอียดที่ชัดเจน
ล่าสุด Grab ประเทศไทย ได้ส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าว “ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่นิว เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี” ในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 2562) สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ เป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารจากทั้งสองฝ่าย ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล และ แอนโทนี่ ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Grab จะมาตอบคำถามด้วยตนเอง หลายฝ่ายจึงจับตามองว่ากระแสข่าว เซ็นทรัล กรุ๊ป ซื้อหุ้น Grab ประเทศไทย อาจเป็นความจริง !!!
เซ็นทรัล กรุ๊ป ถือเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจรีเทลของไทย มีประวัติการดำเนินงานมายาวนานกว่า 90 ปี ประกอบธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งค้าปลีก พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริหารแบรนด์สินค้า และธุรกิจโรงแรม รวมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
และเพื่อรองรับยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป บริษัทได้รุกขยายเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และฟินเทค ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง JD.com (NASDAQ : JD) บริษัทอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ JD Finance ผู้นำด้านฟินเทคของประเทศจีน เพื่อกันร่วมในประเทศไทย
โดยนำความแข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัล ในด้านธุรกิจค้าปลีกที่มีเครือข่ายร้านค้า (physical stores network) ที่สมบูรณ์ที่สุด และความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับวงการค้าปลีกจากฐานลูกค้า The 1 card มาพัฒนาเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและลอจิสติกส์ของ JD.com มาพลิกโฉมธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทย
ขณะที่บริการด้านฟินเทคจะต่อยอดจากความรู้เชิงลึกด้านเทคโนโลยีทางการเงินของ JD Finance รวมไปถึงประสบการณ์การพัฒนาบริการฟินเทคที่ง่ายต่อการใช้งานในตลาดใหม่ (Developing Markets) การใช้ AI (Artificial Intelligence) เทคโนโลยีคลาวด์ และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ทันสมัย
ดังนั้น หากได้ศักยภาพของ Grab ซึ่งเป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์-ทู-ออฟไลน์ (O2O) แอพพลิเคชั่นเรียกแท็กซี่ รถยนต์ และบริการจัดส่งอาหาร ที่ได้รับความนิยมและเปิดให้บริการแล้ว 8 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสนับสนุนการดำเนินงานด้านอีคอมเมิร์ซ น่าจะทำให้เซ็นทรัล กรุ๊ป ก้าวเข้าสู่การเป็น “Digi-Lifestyle Platform” ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงบรรลุตามเป้าหมาย NEW CENTRAL, NEW E-CONOMY อีกด้วย
คาดการณ์ว่าการแถลงข่าวในครั้งนี้น่าบอกถึงรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้น Grab ของเซ็นทรัล กรุ๊ป และแนวทางการต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซในอนาคต ซึ่งบทสรุปที่ชัดเจนจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ยังต้องติดตามกันต่อไป …