แทบทุกธุรกิจมักมีไฮซีซั่น ที่ในช่วงเวลานั้นบริษัทจะมีปัจจัยหนุนการเติบโตจากยอดขายที่สูงกว่าช่วงปกติ เช่น
กลุ่มโรงแรม มักมีกำไรเติบโตดีในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็นเทศกาลแห่งการท่องเที่ยวเฉลิมฉลอง กลุ่มโรงพยาบาล มักจะมีผลประกอบการที่ดีในช่วงไตรมาสที่ 3 เพราะเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้ผู้คนเจ็บป่วยง่ายขึ้น หรือในทางกลับกัน กลุ่มวัสดุก่อสร้างมักจะมีผลประกอบการชะลอตัวในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากตรงกับฤดูฝนที่เป็นอุปสรรคกับงานก่อสร้าง แต่จะพีคในช่วงไตรมาสที่ 4

ฤดูการขายเช่นนี้เกิดขึ้นไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีช่วงเวลาเติบโตมากกว่าปกติ เช่นเดียวกับ ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น หรือ TQM แม้ว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย ที่มีฐานลูกค้ากลุ่มประกันภัยรถยนต์ในมือจำนวนมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่า ธุรกิจก็มีช่วงที่โตเร็วและโตแรงเช่นกัน

จับสัญญาณการเติบโตจากยอดขายรถยนต์ย้อนหลัง

ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก เราสามารถคาดการณ์ผลประกอบการของ TQM ได้จากยอดขายรถยนต์ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท TQM เล่าให้ฟังถึงเทรนด์ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาของ TQM นั้น สามารถดูได้จากยอดขายรถยนต์ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตมากน้อยแค่ไหน หากโตมาก ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ก็จะเติบโตแรงเช่นเดียวกัน แล้วทำไมถึงต้องเป็นปีที่ 2 หลังจากที่รถยนต์ขายดี ธุรกิจประกันภัยจึงจะเติบโต ไม่ใช่ตั้งแต่ปีแรกที่รถยนต์ขายดีเติบโตแรงล่ะ !!!

เพราะว่าในปีแรกของการซื้อรถยนต์ ค่ายรถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักให้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นของแถมให้กับผู้ซื้อรถ ทำให้ความต้องการประกันภัยของรถยนต์ในปีแรกจะไม่เกิดขึ้น กระทั่งผู้ใช้รถยนต์ต่อประกันภัยในปีที่ 2 จึงเป็นโอกาสของบริษัทประกันภัย หรือโบรกเกอร์ประกันภัยอย่าง TQM ที่จะเสนอแพ็กเกจให้กับผู้ซื้อประกันภัย 

สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ถือว่าขยายตัวได้ดี ค่ายรถยนต์ทำนายว่าอาจจะทะลุ 1 ล้านคันได้ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการทำประกันภัยในปี 2562 เพิ่มขึ้นไปด้วย ส่วนใครจะได้ประโยชน์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถและศักยภาพการดูแลลูกค้า

( อัญชลิน พรรณนิภา )

จุดเด่น TQM ขายประกันได้ทุกค่าย !!

ด้วยความที่ TQM เป็นโบรกเกอร์ประกันภัย จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยจากหลากหลายค่าย ช่วยเปรียบเทียบ ดูข้อดีข้อเสียของประกันแต่ละรายให้กับลูกค้า ได้ทุกค่ายประกันภัย เพราะกรมธรรม์ประกันภัยมีความซับซ้อนมาก ประกันภัยที่ราคาถูกที่สุด อาจไม่ใช่ประกันภัยที่เหมาะสม ดังนั้น โบรกเกอร์ประกันภัยจะช่วยถอดรายละเอียดและเสนอรูปแบบการทำประกันภัยให้เหมาะสมและตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด

จุดเด่นของ TQM แม้ว่าเป็นโบรกเกอร์ประกันภัย แต่ลูกค้าจะไม่ถูกบวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจาก TQM จะมีรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทประกันภัยรถยนต์อยู่แล้ว ซึ่งบริการของ TQM ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก เมื่อลูกค้าได้เริ่มทำประกันผ่าน TQM ในครั้งแรก สถิติการต่อประกันภัยในปีถัดไปมีสูงถึง 80 % และมักจะต่ออายุประกันไปเรื่อยๆ ยกเว้นเมื่อมีกรณีเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 TQM มีสัดส่วนรายได้จากการเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย สูงถึง 93.7%

หยวนต้าประเมิน TQM ผลประกอบการยังสดใส 

บล.หยวนต้าประเทศไทย ให้มุมมองว่า TQM จะเติบโตได้ดี คาดกำไรสุทธิปี 2562 จะอยู่ที่ 515 ล้านบาท ขยายตัวถึง 36.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะ TQM ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้และการบริหารอัตรากำไรขั้นต้นที่มีประสิทธิภาพ ด้านรายได้บนประมาณการเบี้ยประกันสุทธิที่ 10.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 7.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสร้างรายได้ในปี 2562 เป็น 2.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

1. ขณะที่ปัจจัยหนุนสมมติฐานข้างต้นมาจาก
   จุดเด่นเหนือคู่แข่งด้านบริการหลังการขาย ด้วยพนักงานขายทั่วประเทศกว่า 2 พันคน พร้อมบริการ Call center 24 ชั่วโมง
   
2. TQM มีแผนนำเงินที่ได้จาก IPO ไปพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมลูกค้า
3. TQM เป็นตัวแทนให้กับบริษัทประกันชั้นนำราว 45 บริษัท สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เกือบทุกกลุ่ม
4. อานิสงส์จากยอดขายรถยนต์ในปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกต่อการขายประกันรถในปีถัดไป ตลอดจนความนิยมซื้อประกันผ่านออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ที่มา เอกสารประกอบการ roadshow ของ TQM, https://www.posttoday.com/auto/572305, บทวิเคราะห์ TQM บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)