บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะแกว่งตัวในกรอบแคบ (ไซต์เวย์) หลังสหรัฐประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนธันวาคม 2561 ต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดยังคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างจีนสหรัฐวันนี้รวมถึงยังมีโอกาสที่ทรัมป์จะขยายเส้นตายจากวันที่ 2 มีนาคม ออกไปหากใกล้จะสามารถบรรลุข้อตกลง ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ต้องติดตามการพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้
บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบ 1,645 – 1,660 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในการประชุม 14 – 15 กุมภาพันธ์ รวมถึงราคาน้ํามันดิบที่ยังคงทรงตัวระดับสูงหลังกลุ่มโอเปกลดกําลังการผลิตน้ํามันลง อย่างไรก็ตามกระแสฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ไหลออกในช่วงนี้ มาจากความไม่แน่นอนการเมืองภายใน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องการยุบพรรคไทยรักษาชาติไว้พิจารณา รวมถึงยอดค้าปลีกสหรัฐลดลงมากสุดในรอบ 9 ปี แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและจะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวนสูง
บล.ไอร่า จำกัด ประเมินทิศทางตลาดหุ้นว่า จะกลับมามีความผันผวนตามตลาดต่างประเทศที่ไร้ทิศทาง หลังตลาดสะท้อนความคาดหวังในเชิงบวกไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะประเด็นต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการติดตามการะเจรจาทางการคา้ระหว่างสหรัฐกับจีน และสถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐ ขณะที่ประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และอยู่ระหว่างการประกาศผลประกอบการและเงินปันผล
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะจับตาผลเจรจาการค้าในคืนนี้ ซึ่งมีโอกาสที่ผลลัพธ์จะจบด้วยการเลื่อนการขึ้นอัตราภาษีรอบใหม่ 25% บนวงเงินสินค้า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐจากประเทศจีน หากเป็นเช่นนั้นมองว่าไม่ใช่ประเด็นบวก และแสดงถึงความขัดแย้งในบางประเด็น สอดคล้องกับมุมมองที่เราคาดไว้ก่อนหน้าคือ อาจตกลงกันได้ในการลดยอดขาดดุลการค้า แต่ประเด็นสำคัญกว่านั่นคือ การปกป้องสิทธิทางปัญญา และการถ่ายโอนข้อมูลที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง