บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
ประเมินดัชนีแกว่งตัว 1,667 – 1,680 จุด โดยภาวะการลงทุนยังคงได้ sentiment เชิงบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนมีความคืบหน้ามาก อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับตัวลงหลังทรัมป์เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกผ่อนคลายราคาน้ํามันที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับแรงขายทำกำไรหลังการประกาศงบและเงินปันผล 2562 ที่อาจกดดันให้ดัชนีอ่อนตัว
นอกจากนี้คาดว่าจะมีการชะลอการลงทุนเพื่อติดตามประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงถัดไป
บล.เอเอสแอล จำกัด
มองว่า ตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการตอบรับผลประกอบการที่ประกาศออกมาอยู่ในกรอบที่ตลาดประมาณไว้ก่อนหน้า และเงินปันผลจ่ายที่ประกาศออกมาจูงใจให้เข้าซื้อถือระยะกลาง ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นแรงผลักดันหลักให้ดัชนีตลาดหุ้นกลับตัวขึ้นสร้างจุดสูงใหม่กว่า และมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,680 จุดอย่างไรก็ตามการที่ SET ปรับขึ้นแรง เนื่องจากได้ตอบรับปัจจัยบวกภายในและภายนอกมาก ดังนั้นการกลับตัวขึ้น จึงมีโอกาสที่จะเกิดแรงขายทำรอบระยะสั้น
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ประเมินตลาดหุ้นรับประเด็นสงครามการค้าเป็นกรณีพื้นฐานไปแล้ว คาดดัชนีตลาดหุ้นเข้าสู่ช่วงพักฐาน 1,670-1,680 จุด โดยตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงดัชนีปรับตัวขึ้นเด่นในช่วงที่ผ่านมา ตอบรับประเด็นโอกาสการยุติข้อพิพาทสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน เบื้องต้นเราประเมินกรอบอัพไซต์เริ่มจำกัด ในขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมาทรัมป์ออกโรงวิจารณ์โอเปค ระบุราคาน้ำมัน ณ.ระดับปัจจุบันค่อนข้างสูง ส่งผลในเชิงจิตวิทยาให้ราคาน้ำมันดิบเบรนด์ปรับตัวลงกว่า 3%