"บลจ.ภัทร"... ชูจุดแข็ง ‘Phatra Asset Allocation’ เปิด 2 กองทุนใหม่ ตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางตลาดผันผัวน

>>

"บลจ.ภัทร"... ชูกลยุทธ์การลงทุน 'Phatra Asset Allocation' พร้อมด้วยมุมมองการลงทุนที่เฉียบคมจาก "บล.ภัทร" ตอกย้ำความสำเร็จจาก 'กอง PHATRA SG-AA' พร้อมเปิดเพิ่มอีก 2 กอง ตอบสนองต่อเป้าหมายการลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยงได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิด IPO วันที่ 4-8 มี.ค. นี้

นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ภัทร จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4-8 มี.ค. 2019 บริษัทจะเปิดเสนอขายกองทุนใหม่อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดภัทร สตราทิจิคแอสแซ็ทอโลเคชั่น-Light (PHATRA SG-AA Light)’ และ ‘กองทุนเปิดภัทร สตราทิจิคแอสแซ็ทอโลเคชั่น-Extra (PHATRA SG-AA Extra)’ ซึ่งทั้ง 2 กองทุนมีการลงทุนแบบ Asset Allocation หรือกระจายการลงทุนไปในทรัพย์สินต่างๆ เหมือนกับกองทุน PHATRA SG-AA แตกต่างกันที่กลยุทธ์การจัดสัดส่วนในการกระจายการลงทุนในแต่ละประเภททรัพย์สินที่สะท้อนความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน

โดย ‘กอง PHATRA SG-AA Light’ จะลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 51% ตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศรวมประมาณ 24% ตราสารทางเลือกประมาณ 10% เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทองคำ น้ำมัน และที่เหลือเป็นส่วนของเงินสดเพื่อสภาพคล่องของกองทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูง 

ส่วน ‘กอง PHATRA SG-AA Extra’ จะลงทุนตราสารหนี้ประมาณ 5% ตราสารทุนในประเทศและต่างประเทศรวมประมาณ 76% ตราสารทางเลือก 15% ที่เหลือเป็นส่วนของเงินสดเพื่อสภาพคล่องของกองทุน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูงมาก 

“สัดส่วนการลงทุนในทรัพย์สินแต่ละประเภทอยู่ภายใต้กรอบการให้คำแนะนำในด้านการลงทุนที่ระบุไว้ในบทวิเคราะห์ Asset Allocation ที่ได้รับจากที่ปรึกษาการลงทุน คือบล.ภัทร จำกัด (มหาชน) ผ่านการวิเคราะห์จากทีมนักวิเคราะห์การลงทุนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการวิเคราะห์เศรษฐกิจ อีกทั้งมีทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัท ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์จังหวะและโอกาสการลงทุน ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด”

นายยุทธพล ยังกล่าวอีกว่า กอง Asset Allocation ทั้ง 3 กอง จะช่วยให้นักลงทุนรับมือกับตลาดในปี 2019 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาข้อตกลงในการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) หรือความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอนสูง อาจพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งด้านอื่นๆ อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว และตลาดการเงินที่บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี ที่ใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
( ยุทธพล ลาภละมูล )

“หากผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 10 ปี ต่ำกว่า 2 ปี จะเป็นสัญญาณที่นักลงทุนหลายคนเชื่อว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12-24 เดือนข้างหน้า ดังนั้น การมีพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และการมีความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับความสามารถในการรับความเสี่ยงและความต้องการรับความเสี่ยงของนักลงทุนเป็นเรื่องสำคัญ”

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.phatraasset.com/FundDetail