“บลจ.กรุงไทย”...ส่ง ‘กอง KT-SAGA’ ตอบโจทย์ตลาดการลงทุนผันผวน

>>

“บลจ.กรุงไทย”...ส่ง ‘กอง KT-SAGA’ ตอบโจทย์ตลาดการลงทุนผันผวน ชูนโยบายลงทุนผสมผ่านกอง ETF ‘หุ้น-ตราสารหนี้’ ต่างประเทศ ตั้งเป้าสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีชี้วัด ขายถึง 18 มี.ค. 19 นี้

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ มีความผันผวนค่อนข้างสูง ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายกองทุนผสมที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุน โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันตามภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน  

บริษัทจึงเตรียมเปิดขาย ‘กองทุนเปิดกรุงไทย สตราทีจิค แอคทีฟ  โกลบอล แอลโลเคชั่น (KT-SAGA) ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 18 มี.ค.19 เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) ในต่างประเทศ เน้นลงทุนในอีทีเอฟที่อ้างอิงดัชนีหุ้นและตราสารหนี้เป็นหลัก โดยมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
 
( ชวินดา หาญรัตนกูล )

 

“จุดเด่นของ ‘กอง KT-SAGA’ เป็นกองทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับตลาดได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้กอง ETF มีความหลากหลายทั้งอิงกับดัชนีหุ้นหรือตราสารหนี้ มีทั้งระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เป็นต้น และมีสภาพคล่องสูง ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารพอร์ตโฟลิโอ” 

นางชวินดา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนจะเลือกลงทุนแบบ Top- Down Approach โดยการวิเคราะห์ภาวะตลาดและเศรษฐกิจในภาพรวม นำไปสู่การเลือกลงทุนในแต่ละประเทศ และอุตสาหกรรม หากภาวะตลาดหุ้นอยู่ในช่วง ‘ขาขึ้น’ ‘กอง KT-SAGA’ ก็จะ ‘เพิ่มน้ำหนัก’ ลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงกับดัชนี ‘ตลาดหุ้น’

แต่ถ้าตลาดหุ้นอยู่ในช่วง ‘ขาลง’  กองทุนก็จะ ‘เพิ่มน้ำหนัก’ ลงทุนใน ETF ที่อ้างอิงกับ ‘ตลาดพันธบัตร’  และมีการพิจารณาถึงกลุ่มประเทศที่จะลงทุน  เช่น เน้นไปที่ประเทศเกิดใหม่  หรือกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงการใช้การวิเคราะห์เชิงเทคนิคเข้ามาประกอบด้วย เพื่อหาจังหวะในการลงทุนที่เหมาะสม 

โดยกระบวนการทั้งหมดจะช่วยให้ ‘กอง KT-SAGA’ สามารถนำ ETF หลากหลายประเทศ มาลงทุนในพอร์ตได้อย่างเหมะสม โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้มีโอกาสสูงกว่าดัชนีชี้วัด ซึ่งกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง”  

"สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของดัชนีชี้วัด นับตั้งแต่เดือนม.ค. 14 – ธ.ค. 18 (ปรับด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับค่าสกุลเงินบาท ณ วันคำนวณผลตอบแทน) เฉลี่ยอยู่ที่ 3.13% ต่อปี จึงเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกในการกระจายพอร์ตการลงทุนไปในต่างประเทศแบบอิงกับดัชนีประเทศต่างๆ และเป็นการบริหารกองทุนแบบ  Active Management”