"ภาษีบุหรี่" พ่นพิษ ฉุดรายได้องค์กรท้องถิ่นวูบ

>>

พิษภาษีบุหรี่ใหม่ สะเทือนองค์กรท้องถิ่น รายได้หายกว่าพันล้านลดลง 20%

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากอัตราภาษีบุหรี่ใหม่เพิ่มขึ้นที่เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 โดยเก็บตามปริมาณ 1.20 บาท/มวน และตามราคา 20% สำหรับบุหรี่ที่ราคาไม่เกินซองละ 60 บาท และ 40% สำหรับบุหรี่ที่ราคาเกินซองละ 60 บาท ทำให้การบริโภคบุหรี่ที่เสียภาษีถูกต้องลดลง โดยเห็นได้ชัดจากการเก็บภาษีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เก็บจากภาษีบุหรี่ในปีงบประมาณ 2561 ลดทุกไตรมาส

สำหรับทั้งปีงบประมาณ 2561 อบจ. เก็บภาษีบุหรี่ได้ 2,479 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 651 ล้านบาท หรือลดลง 21% เนื่องจากอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ทำให้ราคาบุหรี่ถูกที่สุดมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 50% ทำให้คนหันไปสูบบุหรี่หนีภาษี และยาเส้นที่ภาษีต่ำและราคาถูกกว่าบุหรี่เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ การเก็บภาษีบุหรี่ อบจ. วัดการเก็บรายได้ภาษีบุหรี่ที่ลดลงได้ดี เพราะเก็บอยู่ที่ 1.86 บาท/ซอง หากรัฐบาลไม่มีการเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 นี้ออกไป จะทำให้รายได้ภาษีของ อบจ.หายไปกว่าพันล้านบาท กระทบรัฐบาลต้องให้เงินสนับสนุนเพิ่ม

ที่ผ่านมา น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปก่อน เพราะจะกระทบฐานะการดำเนินงาน ยสท.อย่างมาก ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของ ยสท.เหลือ 40% ส่งผลให้การดำเนินงานขาดทุนในที่สุด

ขณะที่ตัวแทนชาวไร่ สัปดาห์นี้จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้เลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ ส่วนให้เงินชดเชยเกษตรกร 100 ล้านบาท คาดว่าจะให้ไม่ทันวันที่ 4 เม.ย. 2562 ตามที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดไว้