ในที่สุดก็ถึงวันตัดสิน !! ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD พร้อมพวกรวม 4 คน ร่วมกันลับลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี หลังจากมีการสืบพยานโจทก์-จำเลย เรียบร้อยแล้ว ศาลจึงได้นัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ (19 มีนาคม 2562) เวลา 9.00 น. ที่ผ่านมา
โดยศาลคำตัดสินให้จำคุกนายเปรมชัย 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ใน 3 ข้อหา คือ
- ร่วมกันพกอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต (จำคุก 6 เดือน)
- สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (จำคุก 8 เดือน)
- ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ่มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต (จำคุก 2 เดือน)
ส่วนข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ศาลตัดสินยกฟ้อง ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี แต่ศาลจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อ
ITD ได้รับผลกระทบไหม หากต้องเปลี่ยนผู้บริหาร ?
ดูเรื่องคดีความกันไปแล้ว เราลองข้ามมาดูเรื่องธุรกิจและการลงทุนกันบ้าง การที่ศาลตัดสินจำคุกนายเปรมชัยนั้น อาจทำให้เกิดความกังวลว่า หากสุดท้ายแล้วนายเปรมชัย ต้องลงจากเก้าอี้ประธานบริหารและกรรมการ ITD จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ การประมูลงาน และโครงสร้างการบริหารในอนาคตมากน้อยขนาดไหน
สำหรับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ITD ชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร และยังไม่ได้ข้อสรุปแนวทางการสู้คดีในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่าหากสุดท้ายนายเปรมชัยต้องออกจากตำแหน่ง แม้จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ (ศาลยุติธรรมชั้นต้น) และแพ้คดีในศาลสูงสุด ต้องจำคุกตามคำตัดสินจริง ผู้บริหารใหม่ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่แทนอาจทำให้ทิศทางธุรกิจในระยะยาวเปลี่ยนไปจากเดิม
แต่ระหว่างขั้นตอนการอุทธรณ์ มีแนวโน้มที่ผู้บริหารจะยังเป็นนายเปรมชัย เหมือนช่วงการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น เพราะคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ทำให้ในระยะสั้นทิศทางการดำเนินธุรกิจของ ITD ยังไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลง
โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน ยังมองว่าแม้ปัจจุบันยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มคำแนะนำ (upside) แต่ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนเพราะยังมีแรงกดดันจากโอกาสตั้งค่าเผื่อในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโครงการสุวรรณภูมิ หรือโครงการอื่น และความไม่แน่นอนของเงินลงทุนทวาย รวมถึงถึงเหมืองโปแตช รวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าราว 1.90 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากมีการตั้งสำรอง ราคาหุ้นอาจมีแนวโน้มปรับลง (downside) อย่างมีนัยสำคัญ
ดังนั้น จึงแนะนำให้รอดูความชัดเจนของการตั้งค่าเผื่อ และความชัดเจนของแก้ปัญหาเงินลงทุนก่อน รวมถึงความชัดเจนแผนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัทเพื่อรองรับคดีความของนายเปรมชัยด้วย โดยยังคงคำแนะนำ Neutral (คงน้ำหนักการลงทุน) และให้ราคาเป้าหมายของปี 2562 ไว้ที่ 3.00 บาทต่อหุ้น
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองแนวโน้มงานประมูลของ ITD ว่า อาจได้รับงานก่อสร้างโยธา หากกลุ่ม ซีพี เจรจาข้อตกลงโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบินสำเร็จ คาดว่ามีมูลค่างานที่ ITD จะได้รับไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากไม่สำเร็จกลุ่มกิจการร่วมค้าระหว่าง BTS- ซิโนไทย–ไฟฟ้าราชบุรี มีโอกาสจะได้เจรจางานนี้ต่อ อย่างไรก็ตาม มองว่ายังมีโอกาสจากโครงการขนาดใหญ่ๆ อีกมาก เช่น สนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีม่วงและส่วนขยายรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆ เป็นต้น
ทำไมหุ้นถึงขึ้นในวันตัดสินคดี
ในขณะที่หลายฝ่ายเป็นกังวลกับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตของ ITD แต่กลับกันราคาหุ้นปรับตัวขึ้น โดยวันนี้ (19 มีนาคม 2562) ราคาหุ้น ITD ปิดตลาดที่ 2.30 บาท บวกขึ้น 7.48% หรือเพิ่มขึ้น 0.16 บาท และมีมูลค่าซื้อขาย 96.27 ล้านบาท
โดยสาเหตุหนึ่งที่หุ้นขึ้น หลังจากการเจรจาการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินของกลุ่ม CP ที่ ITD เป็นพันธมิตรเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้หุ้นในกลุ่มที่เข้าประมูลขยับตัวขึ้นโดดเด่น และต้องติดตามว่าจะเป็นข่าวดีกับ ITD ช่วยพลิกฟื้นผลประกอบการได้หรือไม่
การตัดสินคดีของนายเปรมชัยในวันนี้ อาจจะออกมาในลักษณะเดียวกับความคาดหวังของสังคม แต่สำหรับ ITD อาจกลายเป็นข่าวร้าย เพราะเกิดความไม่แน่นอน หากนายเปรมชัยถูกตัดสินให้จำคุกตามคำสั่งศาลฯ บริษัทจำเป็นต้องหาผู้บริหารคนใหม่ ซึ่งทิศทางธุรกิจหลังจากนั้นจะยังคงเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้…