บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)

คาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในแดนบวกจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้น หลังมีพัฒนาการเชิงบวกในการเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับขึ้นทะลุ 60 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ MSCI ยอมรับเงื่อนไข NVDR ทำให้จะถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน MSCI EM จาก 2.5% เป็น 3% ทำให้โมเมนตัมกระแสเงินทุนต่างชาติ คาดว่าจะอยู่ในทิศทางไหลเข้า โดยหุ้นที่คาดว่าจะถูกเพิ่มน้ำหนักจะเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักดัชนี MSCI ส่วนที่สะสมไปแล้วยังเน้นถือต่อเนื่อง

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

มีมุมมองเป็นบวก โดยคาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,645 – 1,650 จุด ตอบรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถัดไปช่วงต้นเดือนเม.ย. 62 จีนจะเดินทางเพื่อหารือที่สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาการค้าภายในเดือนเม.ย. นี้ ประกอบกับตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนเดือนมี.ค. 62 ขยายตัวขึ้นสู่ 54.8 ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น เหนือ 60 เหรียญต่อบาร์เรล จะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง MSCI อนุมัติให้รวม NVDR ไว้ในการคํานวณน้ำหนัก ลงทุนหุ้นไทยนั้นเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีอาจมีแรงขายสลับในจังหวะที่ดีดตัว ขึ้นจากภาวะการเมืองภายในที่ยังไม่ชัดเจน

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน

• กลุ่มที่ได้ประโยชน์ MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคํานวณน้ําหนักการลงทุน เช่น SCC, BDMS, CPN , LH , BANPU ,INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC
• กลุ่มโรงกลั่น คาดงบไตรมาส 1/62 เป็นบวกจากค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นและ Stock gain เช่น TOP, PTTGC, SPRC
• กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์การเลือกตั้งหนุนต่อความเชื่อมั่นการลงทุน เช่น AMATA, STEC, BEM และ BTS
• กลุ่มหุ้นตั้งรับ (Defensive stock) ในช่วงตลาดผันผวน เช่น BDMS, BCH, TTW, EA และ BGRIM