พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับโครงการ รับจำข้าวที่เคยอยู่ในบัญชี 17 ล้านตัน ที่ดำเนินการระบายออกไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเหลือ 2 แสนตัน ซึ่งที่ประชุมรอบนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการระบายให้หมดภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ หากดำเนินการได้ตามแผนก็จะถือว่ารัฐบาลชุดนี้ได้ระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้าวอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่นอกบัญชี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) ปริมาณ 6 แสนตันนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ถ้ายังไม่สามารถระบายหรือตรวจสอบได้ ให้ดำเนินแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่จะต้องรับผิดชอบ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขาฯ นบข. กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณ 500 ล้านบาท ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และ อ.ต.ก.เพื่อนำไปใช้เป็นงบประมาณดำเนินการค่าธรรมเนียมศาล คดีโครงการรับจำนำข้าว หลังจากศาลแพ่งรับฟ้องเรียบร้อยแล้ว ต้องดำเนินคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายกับคู่สัญญาในโครงการรับจำนำข้าว เนื่องจากเรื่องดังกล่าวมีคดีความที่ฟ้องร้องจำนวนมากหลายคดี และมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ขณะที่ อคส.และ อ.ต.ก.ไม่ได้ตั้งงบประมาณ เอาไว้ นบข.จึงเห็นชอบในหลักการและให้สำนักงบประมาณจัดหาแหล่งเงินมา สนับสนุนต่อไป
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า นบข.ได้รับทราบการช่วยเหลือเกษตรกรปลูกพืชหลังนา หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 โดยมอบหมายกระทรวงเกษตร และสหกรณ์เป็นเจ้าภาพของโครงการ ซึ่งสำนักงบประมาณมีความเห็นว่า ควร นำเรื่องดังกล่าวให้ นบข.ทราบ เพราะการปลูกพืชหลังนาจะมีผลกระทบกับการปลูกพืชอื่นๆ
ด้านสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในปี 2562 สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่าจะส่งออกข้าวได้ 9.5 ล้านตัน มูลค่า 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง จากปีที่แล้ว 14% เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งขึ้น ทำให้ราคาข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่ง และจีนสามารถเพาะปลูกข้าวได้มากขึ้น