เปิดตัวรถเมล์ไร้เงินสด! จ่ายค่าตั๋วผ่านระบบดิจิทัลเริ่มนำร่องสาย 510

>>

เปิดตัวรถเมล์ไร้เงินสดคันแรกของประเทศ ชำระค่าโดยสารผ่านระบบดิจิทัล สาย 510 ม.ธรรมศาสตร์-อนุสาวรีย์ ดีเดย์ 9 เม.ย.นี้

นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. ได้เปิดตัวรถเมล์ไร้เงินสดเป็นสายแรกของประเทศไทย ถือว่าเป็นการยกระดับเข้าสู่ระบบขนส่งดิจิทัลรองรับแผนพัฒนาสมาร์ทซิตี้ และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต รถเมล์ขสมก. จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบจ่ายค่าโดยสารแบบไร้เงินสดบนรถโดยสารทุกคัน ซึ่งจะเป็นระบบใช้บัตรดิจิทัลชำระค่าโดยสารซึ่งจะไม่มีการใช้เงินสดอีกต่อไป

ซึ่งในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทยในการลงทุนติดตั้งระบบและเครื่องอ่านบัตร พร้อมร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เรื่องการให้บริการรับชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด โดยจะเป็นการทดลองนำร่องบนรถโดยสารปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จำนวน 38 คัน เป็นระยะเวลา 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.-9 มิ.ย.นี้ สำหรับเหตุผลที่เลือกใช้สายนี้นำร่องเพราะส่วนใหญ่ผู้โดยสารกว่า 90% เป็นลูกค้าประจำสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ไม่ยาก

นายประยูร กล่าวต่อว่าสำหรับการซื้อบัตรนั้นมีราคาขั้นต่ำที่ 50 บาท เริ่มจำหน่ายวันที่ 2 เม.ย. นี้ โดยระยะแรกจะเป็นช่วงโปรโมชั่นเติมแค่ 40 บาทและได้รับโบนัสเงินเพิ่มอีก 10 บาท ให้กับผู้โดยสารที่ซื้อบัตรครั้งแรกจะได้รับสิทธิ์นี้ทุกราย

"ขอย้ำว่ารถเมล์สายนี้ในช่วงทดลองจะไม่มีการใช้เงินสด ผู้โดยสารสามารถซื้อบัตรโดยสารดังกล่าวได้บนรถเมล์สาย 510 และจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารของ ขสมก. ตรงป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ เช่น อนุสาวรีย์ชัยฯ บีทีเอสจตุจักร ดอนเมือง และ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต"นายประยูร กล่าว

ส่วนการเติมเงินบัตรมี 3 วิธี คือ เติมเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้งของทุกธนาคาร เติมเงินผ่านตู้เอทีเอ็มของทุกธนาคาร และเติมเงินผ่านเคาท์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา โดยไม่กำหนดขั้นต่ำวงเงินในการเติมเงินและเติมเงินได้สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท

ทั้งนี้หากผู้โดยสารเติมเงินครั้งละ 1,000 บาทจะได้โบนัสเพิ่ม 50 บาท รวม 1,050 บาท ทั้งนี้กรณีที่ผู้โดยสารใช้เงินในบัตรไม่หมดสามารถไปขอคืนเงินได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

ส่วนวิธีการแตะบัตรนั้นขสมก.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระเป๋ารถเมล์พกพาเครื่องอ่านบัตรไว้ให้ผู้โดยสารนำบัตรมาแตะ ก่อนที่ในอนาคตขสมก.จะติดตั้งเครื่องอ่านบัตรบนตัวรถเมล์ต่อไป

นายประยูร กล่าวต่อว่า ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าโดยสารผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC ได้ในรูปแบบต่างๆ คือ 1.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3 ประเภท ได้แก่ บัตรรุ่นแรก เวอร์ชั่น 2.0, บัตรฯ ที่ลงทะเบียนกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เวอร์ชั่น 2.5 และ บัตรเวอร์ชั่น 4.0 นอกจากนี้ยังชำระค่าโดยสารด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิตแบบไร้สัมผัส (Contactless) ของธนาคารต่างๆ รวมทั้งชำระค่าโดยสารด้วยระบบคิวอาร์โค้ด และชำระค่าโดยสารด้วยบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.

นายประยูรกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีข้อกังวลผู้โดยสารขาจรสาย 510 ที่ไม่ตอบโจทย์ในการเดินทางนั้นสามารถซื้อบัตรก่อนแล้วไปรับเงินคืนในภายหลังกับธนาคารกรุงไทย หรือเลือกใช้วิธีเดินทางด้วยรถเมล์ที่วิ่งเส้นทางเดียวกันได้ เช่น สาย 29 และ สาย ปอ.29

ดังนั้นโครงการนี้จะนำร่องเพื่อขอประเมินผล กระแสตอบรับ และปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งพิจารณาปรับลดวงเงินในบัตรที่มีข้อเสนอจะขอเริ่มต้นที่ค่าโดยสารของสาย 510 คือ 11-23 บาทตามระยะทางด้วย เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับการใช้บริการของผู้โดยสารต่อไปส่วนผู้ใช้บริการสามารถใช้บัตรโดยสารล่วงหน้า อาทิ ตั๋วรายเดือน รายสัปดาห์ บัตรนักเรียน และ บัตรนักศึกษา เดินทางได้ตามปกติ