ดังนั้นภาพรวมเราคาดจะส่งผลต่อกำไรตลาดหลักทรัพย์รวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และคาดจะเริ่มบักทึกใน 1Q-2Q19 นำโดย CPF ประมาณ 1,800 ล้านบาท TU 200-250 ล้านบาท SCC ประมาณ 2,500 ล้านบาท และหากนับเป็นกลุ่มพบว่ากลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายในการบันทึกต่อกำไรสุทธิสูง ได้แก่ กลุ่มก่อสร้างและอาหาร ประมาณ 7.5-8.0% ในขณะที่กลุ่มพลังงานและธนาคาร คิดเป็นเพียง 2-4% ของกำไรสุทธิปีนี้ โดยสรุปอาจเห็นกำไร EPS19 ปรับลดต่ำกว่า 110x กดดัน Upside อย่างไรก็ตามแนะนักลงทุนให้ความสำคัญที่กำไรจากการดำเนินงานมากกว่า
Investment Theme : ประเมิน SET เดือนเมษายน แกว่งตัวผันผวนในกรอบขาขึ้นที่บริเวณ 1,630 - 1,680 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ ากว่า 40% พร้อมแนะซื้อ 2 หุ้น Global play อย่าง PTTEP, BCP และถือ BEM, CPALL
Market Summary : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อเด่นในกลุ่ม Domestic play นำโดย
- รถไฟฟ้า BEM
- การเงิน SCB, KBANK และ KTC
- กลุ่มค้าปลีก CPALL
ซึ่งณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,646.1 จุด (+1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.6 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 3.4 หมื่นล้านบาท) นักลงทุนต่างชาติซขายหุ้นไทยที่ 438 ล้านบาท (สถาบันซื้อสุทธิ 762 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 7,613 สัญญา