“บลจ.ไทยพาณิชย์”...ชูธีมลงทุน ‘หุ้นดิจิทัล’ รับเมกะเทรนด์โลก มั่นใจแนวโน้มการเติบโตระยะยาวยังดี แนะเติมเต็มพอร์ตด้วย ‘กอง SCBDIGI’ บริหารเชิงรุกโดย ‘PICTET’
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ธีมการลงทุนใน ‘หุ้นดิจิทัล’ ที่อยู่ในเมกะเทรนด์ของโลกถือเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการจัดสรรพอร์ตการลงทุนให้กับผู้ลงทุน ด้วยกระแส Disruption และนวัตกรรม (Innovation)
( นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส )
จึงมีโอกาสอยู่มากสำหรับการเติบโตของบริษัทในกลุ่มของดิจิทัล เนื่องจากผู้ใช้งานทั้งที่เป็นรายย่อยและผู้ประกอบการในปัจจุบัน เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อประโยชน์ในการเลือกใช้สินค้าและบริการ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการใช้งาน ลดต้นทุนในการผลิตในระยะยาว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
บริษัทเองมีกองทุนที่อยู่ในธีมลงทุนดังกล่าวเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนตามการเติบโตของเทคโนโลยีและดิจิทัล ได้แก่ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล (SCBDIGI)” ที่เน้นลงทุนใน ‘กอง Pictet – Digital ชนิดหน่วยลงทุน (share class) I USD สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ’ บริหารโดย PICTET Asset Management
โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธีมดิจิทัลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ ‘ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence :AI))’ ที่จะเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในหลายๆ ด้าน โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่
- เศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือบริการบน Uber ที่เน้นการใช้งานทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
- FinTech ที่ช่วยสนับสนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ทั้งในสถาบันการเงินขนาดใหญ่และร้านค้าปลีก
- Social Media ธุรกิจที่ให้บริการดิจิทัล แพลตฟอร์มแก่ผู้ใช้งานบนสังคมออนไลน์
- Big Data ธุรกิจที่ให้บริการในการวิเคราะห์พฤติกรรมความสนใจของผู้บริโภคที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตรวมถึงฐานข้อมูลอื่น ๆ
- Cloud ซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดเก็บข้อมูลแบบไร้ขีดจำกัดแทนที่การจัดเก็บข้อมูลในฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม
- Internet of things ระบบอัจฉริยะต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานและอุปกรณ์ เช่น การควบคุมระบบวงวจรไฟฟ้าภายในบ้านผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งการสำรวจตำแหน่งบุคคลหรือสถานที่ผ่านสัญญาณ GPS
- E-health ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยในการจัดเก็บและติดตามอาการผู้ป่วย ทั้งนี้มองว่าในกลุ่มของ Healthcare และ Fintech ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจัยเสริมในแง่ของการวิจัยและพัฒนา (R&D) และแนวโน้มของเม็ดเงินที่ทยอยเข้ามาลงทุนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี
“กอง Pictet-Digita ซึ่งเป็นกองทุนหลักนั้น มีกลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลโดยตรง ทั้งนี้ขั้นต่ำ 20% รายได้ของบริษัทจะต้องมีที่มาจากธีมดิจิทัล มีจำนวนหุ้นในพอร์ตประมาณ 40-70 บริษัท โดยมีหุ้น 10 อันดับแรกที่ลงทุน เช่น Facebook, Google, at&t, PayPal และ Tencent เป็นต้น (ที่มา : Pictet Asset Managementข้อมูล ณ 28 ก.พ. 19)”
ทั้งนี้ ‘กอง SCBDIGI’ มีผลการดำเนินงาน (ณ วันที่ 1 เม.ย. 19)
- ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) อยู่ที่ 15.20%
- ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ -0.89%
- ย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 2.69%
“เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินทุนเริ่มแลกได้เช่นกัน”