โบรกส่อง EKH กำไรไตรมาส 1/62 แกร่ง อานิสงส์ไฮซีซั่น-ศูนย์ IVF หนุน
>>
Hightlight
-
บล.ฟินัสเซีย ไซรัส ประเมิน EKH กำไร 1/62 เติบโตแข็งแกร่ง จากอานิสงส์ผู้ป่วยเข้าใช้บริการต่อเนื่องและศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) หนุน
-
ระบุแม้ศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่ช้ากว่าแผนเล็กน้อย ยังมองเป็นบวก จากแรงกดดันด้านต้นทุนที่จะลดลงเพราะรับกับช่วง High Season ของธุรกิจ และมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น
-
แนะนำ ซื้อ ราคาหุ้นยังมี Upside เปิดกว้างเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 7.60 บาท รวมถึง Dividend Yield ที่คาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มที่ราว 3%
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ“ซื้อ” หุ้นบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส1/2562 ของ EKH คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรปกติจะเท่ากับ 26 ล้านบาท ลดลง 6.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้คาดว่ายังเติบโตในระดับสูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากทั้งจำนวนผู้ป่วยที่ยังหนาแน่นตามโรคระบาดทั้งไข้หวัดใหญ่ และโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
ขณะที่ศูนย์ IVF ยังเป็นตัวหนุนที่ดีหลังจากเริ่มเปิดสำนักงานที่พระราม 9 ซึ่งส่งผลบวกต่อการเติบโตของจำนวนลูกค้าจากความสะดวกในการเดินทางที่มากขึ้น ขณะที่ฝั่งต้นทุนยังไม่มีแรงกดดันจากการลงทุนใหม่ๆ ทำให้คาดว่า EBITDA Margin คาดว่ายังทรงตัวในระดับสูงราว 24 ในไตรมาส1/62 ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/61 ซึ่งอยู่ที่ 24.3%
ทั้งนี้คาดว่าแผนการเปิดศูนย์กุมารเวชแห่งใหม่จะเปิดช้ากว่าแผนเล็กน้อย จากเดิมที่จะเริ่มเปิด ให้บริการในเดือน พ.ค.62 เป็นช่วงปลายไตรมาส2/62 หรือต้น ไตรมาส 3/62 อย่างไรก็ตามกลับมองเป็นบวกมากขึ้นจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่จะลดลงเพราะรับกับช่วง High Season ของธุรกิจพอดีในไตรมาส 3 ของทุกปี ซึ่งทำให้มี Demand รับรวมถึงปลดล็อค Capacity ของ EKH ที่ปกติจะค่อนข้างเต็ม โดยอาคารใหม่จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้บริการ ทำให้เพิ่มจำนวนเตียงได้อีก 60 เตียงหรือราว 70% จากปัจจุบัน โดยปัจจุบันยังเน้นประมาณการกำไรปกติปี 2562 อย่าง Conservative ที่ 117 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เริ่มเห็น Upside
อย่างไรก็ตามจากโมเมนตัมกำไรในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ยังแข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีต่อในไตรมาส 2/62 จากการเลื่อนเปิดอาคารใหม่ ขณะที่ราคาหุ้นยังมี Upside เปิดกว้างเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 7.60 บาท รวมถึง Dividend Yield ที่คาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ของกลุ่มที่ราว 3% จึงแนะนำ ซื้อ