Hightlight
- บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จํากัด (มหาชน) หรือ EFORL ผู้แทนจำหน่ายและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบุแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EFORL ถึงวิธีแก้ไขการติดเครื่องหมาย C (เหตุที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน)
- หากเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะสามารถปลดเครื่องหมาย C ได้
- ในปีนี้เราก็ตั้งเป้าหมายเติบโต 15% คิดเป็นประมาณ 2,300 ล้านบาท
นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จํากัด (มหาชน) หรือ EFORL ผู้แทนจำหน่ายและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EFORL ถึงวิธีแก้ไขการติดเครื่องหมาย C หรือเครื่องหมายเตือนกรณีที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้ คาดว่าภายในปีนี้น่าจะสามารถปลดเครื่องหมาย C ได้
สำหรับแนวทางในการแก้ไข คือ
- การเพิ่มทุนจดทะเบียน ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา
- การเพิ่มรายได้และบริการในส่วนของธุรกิจเครื่องมือแพทย์และธุรกิจความงาม จะมีการปรับปรุงและเพิ่มทีมขายให้มีประสิทธิภาพในการขายเพิ่มขึ้น พร้อมมุ่งขยายตลาดในฐานลูกค้าเดิมและฐานลูกค้าใหม่ ทั้งผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งคอสเมติกและคลินิก
- การกลับรายการสำรองทางบัญชี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการตั้งสำรองในส่วนของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก จำกัด ไว้จำนวนกว่า 700 ล้านบาท
และในอนาคตหากบริษัทย่อยสามารถดำเนินการตามแผนงาน และมีการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้กลุ่มบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ส่งผลให้มูลค่าธุรกิจสูงขึ้น และสามารถกลับรายการสำรองทางบัญชีบางรายการได้ จะส่งผลในเชิงบวกกับบริษัทอีกครั้ง
ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ EFORL
- โปรแกรมระบบเตือนและเฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตล่วงหน้า Early Warning Score Program (EWS)
- ระบบอิเล็กทรอนิกส์เวชระเบียนงานระงับความรู้สึก (Anesthesia Record System)
- โปรแกรมระบบการดู ส่งต่อและเก็บข้อมูลคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ร่วมกับระบบเวชระเบียนของโรงพยาบาลแบบอัตโนมัติ
- โปรแกรมระบบส่งต่อข้อมูลของเครื่องวัดความดันโลหิต
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีแผนที่จะร่วมลงทุนและจำหน่ายเครื่องมือแพทย์บางรายการกับบริษัทชั้นนำต่างประเทศ ทั้งนี้ในส่วนบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท วุฒิศักดิ์ คอสเมติก อินเตอร์ จำกัด ได้กำหนดแนวทางแก้ไขไว้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทีมบุคลากร เครื่องมือ ยา และการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ครบถ้วน พยายามพลักดันการขายสินค้าให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นรายการที่มีกำไรสูง และมีการเปิดสาขาในจุดที่มีศักยภาพเพิ่มเติม โดยภาพรวมคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นและเข้าใกล้จุดคุ้มทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำได้ภายในปีนี้
ปัจจุบันวุฒิศักดิ์มีสินค้าอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ผลิตภัณฑ์ของ Wuttisak และ Snail8 ซึ่งยอดขายทั้งสองกลุ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและการทำโปรโมชั่น ปัจจุบันกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Wuttisak Cosmetic คาดว่าจะเห็นในเดือนมิถุนายนนี้ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และกลับไปขยายการลงทุนประเทศในกลุ่ม CLMV อีกด้วย
“เราได้ประชุมหารือถึงการปลดล็อค สิ่งสำคัญคือการเร่งสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น และในปีนี้เราก็ตั้งเป้าหมายเติบโต 15% คิดเป็นประมาณ 2,300 ล้านบาท ในส่วนของ EFORL ไม่มีปัญหาใดๆ ยังคงดำเนินธุรกิจและเติบโตได้ตามปกติ แต่ปัญหาหลักๆ มาจากบริษัทย่อย ดังนั้นวุฒิศักดิ์จะต้องเร่งเพิ่มยอดขายทั้งในผลิตภัณฑ์ของ Wuttisak และผลิตภัณฑ์ของ Snail8 การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย โดยคาดว่าภายในครึ่งปีหลังจะเห็นภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน” นายปรีชากล่าว