เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ “ซีพีเอฟ” ธุรกิจด้านอาหารสัตว์และการแปรรูปเนื้อสัตว์ หนึ่งในอาณาจักรของเจ้าสัว “ธนินท์ เจียวรวนนท์” ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเที่ยงของวันนี้ว่าเจ้าสัวธนินท์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง “ประธานกรรมการ” เนื่องจากมีภารกิจมากขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาปฏิบัติงาน ให้กับบริษัทได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (24 เมษายน) เป็นต้นไป ทั้งนี้กรรมการอยู่ระหว่างสรรหาบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งต่อไป 

มาย้อนดูผลประกอบการ CPF ย้อนหลังกัน  

 

• 2561 - รายได้รวม 567,820.21 ล้านบาท 
             กำไรสุทธิ 15,531.47 ล้านบาท 
  
• 2560 - รายได้รวม 523,179.98 ล้านบาท 
             กำไรสุทธิ 15,259.32 ล้านบาท
  
  
• 2559 - รายได้รวม 476,682.69 ล้านบาท 
            กำไรสุทธิ 14,702.82 ล้านบาท 

 

แล้วใครจะนั่งเก้าอี้ประธานบริหารต่อ? 

 

ย้อนกลับไป ธนินท์เข้ามามีบทบาทในธุรกิจเครือซีพีเต็มตัวในปี 2507 โดยรับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ ดูแลธุรกิจอาหารสัตว์ แทนมนตรี เจียวรวนนท์ (พี่ชายคนรอง) ที่หันไปทุ่มเททางด้านโรงงาน และงานค้าขายสินค้าเกษตร ขณะที่จรัญ เจียวรวนนท์ (พี่ชายคนโต) ดูภาพรวมธุรกิจในฐานะประธานบริษัท ใช้เวลา 5 ปี ธนินท์ก็ขึ้นไปนั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในวัย 30 ปี 

 

เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจาก “กิจการครอบครัว” ไปสู่ “องค์กรธุรกิจ” ที่ดึงเอาความสามารถของคนนอกมาช่วยกันบริหาร และเปลี่ยนสถานภาพคนในที่เคยทำงาน ขยับออกไปด้านข้างกลายเป็นผู้ถือหุ้น

ด้วยจุดเด่นการดึงบุคคลภายนอกครอบครัวมานั่งบริหาร ก็ต้องรอติดตามกันต่อ ว่าหลังจากธนินท์ลงจากเก้าอี้ ใครจะมานั่งบริหารต่อ 

รวบรวมบทความส่วนหนึ่งจากคอลัมน์ “เส้นเรื่องธุรกิจ” : 4 จตุรเทพแห่งความร่ำรวย พี่น้องตระกูล ‘เจียรวนนท์’ อยากอ่านเพิ่มเติมคลิกเลย http://www.wealthythai.com/web/contents/WT190300154

ที่มารูป http://www.cp-enews.com