“บลจ.กสิกรไทย”...จับกระแสเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืน ส่ง ‘กอง K-CHANGE’ ลุยหุ้นเติบโตสูงทั่วโลกที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ขาย 30 เม.ย. – 14 พ.ค. 19 นี้
นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขาย ‘กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน (K-CHANGE)’ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนผ่าน ‘กอง Baillie Gifford Positive Change Fund - Class B accumulation (GBP)’ ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่
- ด้านความครอบคลุมทางสังคมและโอกาสทางการศึกษา
- ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
- ด้านการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต
- ด้านการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
โดยกองทุนเปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 30 เม.ย – 14 พ.ค.19 เริ่มลงทุนได้เพียง 500 บาท
“ปัจจุบันทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับปัญหาสังคมในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ความยากจน และการศึกษา ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals : UN SDGs) อีกทั้งพฤติกรรมการใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพบว่าธุรกิจที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม สามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงานได้สูงและยั่งยืนกว่าธุรกิจที่ไม่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและไม่รับผิดชอบต่อสังคม”
นายสุรเดช ยังกล่าวอีกว่า กองทุนหลักเน้นการลงทุนเชิงรุกในหุ้นของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีการสร้างผลกระทบเชิงบวกทั่วโลกจำนวน 25-50 บริษัท และถือครองหุ้นในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้มากกว่าดัชนีชี้วัด MSCI All Country World Index (ACWI) ซึ่งที่ผ่านมา กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นสูงถึง 58.6% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี2017 ขณะที่ดัชนี MSCI ACWI ทำได้เพียง 14% (ที่มา Baillie Gifford ณ วันที่ 28 ก.พ. 19)
( นายสุรเดช เกียรติธนากร )
นอกจากนี้ กองทุนหลักยังสามารถสร้างผลตอบแทนติดอันดับ Quartile ที่ 1 อย่างสม่ำเสมอเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นโลกอื่นๆในกลุ่ม (ที่มา Morningstar ณ วันที่ 28 ก.พ. 19)
“โดยผู้จัดการกองทุนหลัก (Baillie Gifford) เป็นบริษัทจัดการการลงทุนของสก็อตแลนด์ที่มากด้วยประสบการณ์ มีทีมนักวิเคราะห์กว่า 100 คน ทำหน้าที่ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทที่น่าสนใจกว่า 1,000 บริษัททั่วโลก”
นายสุรเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า ‘กอง K-CHANGE’ เหมาะกับผู้ลงทุนที่เห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นเติบโตสูง (Growth Stock) ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในบริษัทที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ต้องการเพิ่มการลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนดีในระยะยาวให้กับพอร์ตการลงทุน และสามารถรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นซึ่งอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงกว่ามูลค่าที่ลงทุนเริ่มแรกได้
