“บลจ.ไทยพาณิชย์”…ส่ง ‘กอง SCBCR1YB’ ขาย 30 เม.ย.-9 พ.ค. นี้

>>

“บลจ.ไทยพาณิชย์”...เปิดตัว กอง SCBCR1YB’ ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น ลุยตราสารหนี้คุณภาพ พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากดัชนี SET50 ขาย 30 เม.ย.-9 พ.ค. นี้


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด
เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1Y บี (SCBCR1YB)’ อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในตลาดหุ้นไทย จากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 Index โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันที่ 30 เม.ย.–9 พ.ค. 19 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ ‘กอง SCBCR1YB’ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ


ส่วนที่ 1 ส่วนลดความเสี่ยงต่อเงินต้นประมาณ
 98% ของทรัพย์สินกองทุน ซึ่งจะกระจายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพดีที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade ขึ้นไปในต่างประเทศและ/หรือในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงการผิดชำระหนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น การลงทุนส่วนนี้มีความผันผวนต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ 

ส่วนที่ 2 จะลงทุนในวอร์แรนต์ที่อิงกับผลตอบแทนของดัชนี SET 50 Index ประมาณ 2% ของทรัพย์สินกองทุน เป็นส่วนสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุน โดยสัญญาวอร์แรนต์มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนแบบShark fin อิงกับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิงตามรูปแบบที่กำหนด ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่

  1. เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นระหว่าง 0 ถึง 15% ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมกับผลตอบแทนเพิ่ม 50% ของผลตอบแทนของดัชนี
  2. เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นเกิน 15% ณ วันใดวันหนึ่งระหว่างอายุกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมกับผลตอลแทนชดเชยเท่ากับ 1.8% ของเงินลงทุน
  3. หากราคาดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าราคา ณ วันลงทุน เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนแต่จะได้รับเงินต้นคืน หากไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ (default) ในส่วนที่ 1


“ความน่าสนใจของกองทุนนี้ คือ สามารถลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้นผ่านการเลือกลงทุนในตราสารที่มีคุณภาพ ทั้งตราสารหนี้และเงินฝากของผู้ออกตราสารที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับInvestment grade ขึ้นไป โดยมีอายุกองทุนเพียง 1 ปี เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง นอกจากนี้ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนตามตลาดหุ้นไทย ซึ่ง SET Index ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากตลาดที่มีแนวโน้มที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากเม็ดเงินต่างชาติหลังเลือกตั้ง และการลงทุนภาครัฐที่ช่วยประคองเศรษฐกิจได้ในระยะกลาง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในขาลงอยู่ อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนชดเชยในระดับที่น่าสนใจหากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาด”



( นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย )


กองทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่คาดว่าดัชนี SET 50 จะปรับตัวสูงขึ้น และต้องการโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากและตราสารหนี้ทั่วไป ในขณะที่ยังคงต้องการจำกัดความเสี่ยงต่อเงินต้นด้วย