บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเอสแอล จำกัด ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง จากความกังวลว่าจะเกิดสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะ ลุกลามไปยังคู่ค้าอื่น ในระยะสั้นถึงแม้ว่าจีนจะตอบรับการในการ เจรจาครั้งนี้ซึ่งจะทราบผลวันศุกร์ 10 พฤษภาคม แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกก็ยังไม่มั่นใจ และขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา ในขณะที่ปัจจัยภายใน ผลประกอบการประกาศออกมามากขึ้น สร้างความผันผวนต่อราคาหุ้นรายหลักทรัพย์ การปรับตัวลงแรงเป็นโอกาสของการเข้าซื้อระยะกลางในลักษณะทยอยซื้อ แนวรับ 1,640-1,650 จุด
ส่องข่าวเศรษฐกิจไทย เริ่มจากบอร์ดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยกนง.มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ จึงต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะฟันเฟืองหลักจากภาคการส่งออกที่มีการปรับเป้าการขยายตัวลงเหลือ 3% หลังภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
อย่างไรก็ตามต้องจับตาการจัดตั้งรัฐบาลผสมและการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยได้มากแค่ไหน ด้านกลยุทธ์แนะนำ Selective Buy on Domestic เช่น กลุ่มก่อสร้าง (จากการสานต่อโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ) แนะนำ STEC SEAFCO CK กลุ่ม EEC แนะนำ AMATA WHA กลุ่ม Consume แนะนำ KTC CPALL BJC HMPRO ROBINS และกลุ่มธนาคาร แนะนำ BBL KBANK KTB
นอกจากนี้มีประเด็นศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์กฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 128 ไม่ขัด รัฐธรรมนูญ มองเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับตลาด เนื่องจากจะมีผลให้การจัดตั้งรัฐบาล ได้เร็วขึ้น ด้าน SET เน้นยืนแนวรับ 1,648-1,650 จุด และมีแนวโน้มรีบาวด์กลับ หากยืนได้มั่นคง แนวต้าน 1660-1667 จุด ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่ม Domestic ที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2562 ออกมาดี และแนะนำ BGRIM ที่เน้นขายไฟในประเทศ และ CPALL ROBINS HMPRO ที่ได้รบัประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
