“ชมรมโครงข่ายทีวีดิจิทัล” เตรียมส่งหนังสือถึงกสทช. ขอความชัดเจนมาตรการเยียวยา MUX หลังลูกค้าทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาต

>>

Hightlight 

  • ชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัล เตรียมยื่นหนังสือถึงกสทช. ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เสนอ 2 มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการโครงข่าย หลังลูกค้าคืนใบอนุญาต 7 สถานี
  • ทำให้สูญเสียรายได้รวมกัน 300 ล้านบาทต่อปี และการบริหารจัดการอาจสูญเสียมูลค่าจากทรัพย์สินที่ลงทุนไปแล้ว
  • และมีข้อเสนอหลายประเด็นของชมรมโครงข่าย ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจโทรทัศน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่จะได้รับชมทีวีดิจิทัลอีกมาก


นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ชคท.) หรือ Digital Television Network Provider Society (DNPS) ร่วมประชุมกับ 4 หน่วยงานผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ประกอบด้วย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กรมประชาสัมพันธ์ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พิจารณาผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 4/2562 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม การวิเคราะห์เรื่องผลกระทบด้านเทคนิค และด้านผู้ชมและด้านการเงิน รวมถึงเสนอแนวทางในการเจรจากับกสทช. เพื่อบรรเทาและเยียวยากรณีโครงข่าย มีผู้ใช้บริการน้อยลง

 


ที่ประชุมชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ครั้งที่ 2/2562 มีมติเห็นชอบให้มีหนังสือถึงกสทช. เพื่อขอความชัดเจนใน 2 ประเด็น คือ 

 

  1. กรณีผู้ประกอบการโครงข่ายยังเปิดให้บริการครบทุกราย ในประเด็นความชัดเจนของกรอบระยะเวลาเยียวยาผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ว่าจะเริ่มเมื่อไร และการเยียวยาชดเชยให้กับโครงข่ายจะเยียวยาอย่างไร ในกรณีที่มีผู้ใช้บริการโครงข่ายลดลง     

    โดยจะเยียวยาให้กับโครงข่ายเฉพาะที่มีผู้ประกอบการดิจิทัลเหลืออยู่ 15 ราย หรือทางกสทช.จะพิจารณาตามสัญญาที่ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ทำกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่ง กสทช. ได้ให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือถึง 50% หรือ 100% ซึ่งหากผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ไม่ได้รับการช่วยเหลือในส่วนนี้ก็จะประสบปัญหาขาดทุนจำนวนมากต่อเนื่อง
  1. กรณีที่ผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ขอคืนใบอนุญาตประกอบกิจการโครงข่าย จำนวน 1 โครงข่าย เพื่อเปิดทางให้กสทช. นำคลื่นความถี่ 700 MHz. ย้ายไปพัฒนาเทคโนโลยี 5G ทางกสทช.จะมีแนวทางเยียวยา และวางกรอบหลักเกณฑ์การคำนวณวงเงินเป็นอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่าภายหลังจากที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลได้คืนใบอนุญาตจำนวน 7 ช่องสถานี ส่งผลให้ผู้ให้บริการทุกโครงข่ายฯ สูญเสียรายได้ทันทีประมาณการ 300 ล้านบาท /ปี


นอกจากนี้เนื่องจากมีช่องสัญญาณเหลืออยู่ ชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายฯ จึงมีแนวคิดที่จะเสนอให้กสทช.เพิ่มคุณภาพช่องสัญญาณจากช่อง SD ที่มีผู้ประกอบกิจการอยู่ ให้เป็น Super SD เพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ดีขึ้น โดยกสทช.คงยังก็ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ แต่ช่อง SD ที่ยังประกอบกิจการอยู่อาจจะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กสทช.ตามคุณภาพสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้รับประโยชน์จากภาพที่คมชัดขึ้น  และช่อง SD มีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าโฆษณา ส่งผลให้กสทช.ได้รับรายได้ค่าธรรมเนียมรายปีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

“นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอหลายประเด็นของชมรมโครงข่าย ที่เป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจโทรทัศน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่จะได้รับชมทีวีดิจิทัลอีกมาก สำหรับทั้ง 5 โครงข่ายเป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งปัจจุบันรวมเงินลงทุนไปแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท หากมีปัจจจัยผันแปรที่ได้รับผลกระทบ กสทช.ควรมีแนวทางช่วยเหลือสนับสนุนโครงข่ายด้วย เพื่อให้ครบกระบวนการหลังจากที่ช่วยเหลือทีวีดิจิทัลมาแล้ว อย่างไรก็ตามทางชมรมผู้ให้บริการโครงข่ายฯ จะทำหนังสือเสนอมาตรการในการชดเชยและเยียวยาผู้ให้บริการโครงข่ายฯ ถึงสำนักงานกสทช. เพื่อพิจารณาภายในเดือนพฤษภาคมนี้” นายเขมทัตต์กล่าว