ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เดินทางไปเยี่ยมโรงงานผลิตแร่แรร์เอิร์ธ (Rare-earth) ที่มณฑลเจียงซี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตแร่ดังกล่าวที่สำคัญของประเทศ และจีนยังเป็นผู้ผลิตในสัดส่วนถึง 90% ของทั้งโลก
แรร์เอิร์ธเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฮเทคอีกมากมาย รวมถึงอาวุธ และยังไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีเพิ่มภาษีนำเข้าโดยสหรัฐ คาดว่าเป็นเพราะสหรัฐมีความจำเป็นต้องนำเข้าแร่ดังกล่าวจากจีน และนำเข้าแร่ดังกล่าวจากจีนถึง 80% จากปริมาณนำเข้าทั้งหมด
แม้ว่าจะไม่มีการระบุถึงการใช้แรร์เอิร์ธเป็นตัวต่อรองกับสหรัฐ แต่การเยือนแหล่งผลิตใหญ่ของประเทศครั้งนี้ สีจิ้นผิงเดินทางไปพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรี หลิวเหอ ซึ่งเป็นผู้นำคณะการเจรจาการค้าของจีน ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า นี่คือการส่งสัญญาณจากจีนไปยังสหรัฐว่า จีนอาจใช้แรร์เอิร์ธเป็นตัวต่อรอง
หยางคุนเหอ นักวิเคราะห์ของบริษัท Pacific Securities Co แสดงความเห็นผ่านสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า การเยือนโรงงานดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณไปยังสหรัฐว่า จีนอาจใช้แรร์เอิร์ธเพื่อเป็นมาตรการตอบโต้ในช่วงเวลาที่สงครามการค้ากำลังดุเดือดมากขึ้น
วันเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงข่าวหลังจากที่กูเกิลยุติการให้บริการระบบ Android ให้กับหัวเว่ย โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุเพียงแค่ว่า "โปรดอดใจรอ" ว่ารัฐบาลและบริษัทจีนจะตอบโต้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม หากจีนใช้แร์เอิรธ์เป็นตัวต่อรอง ด้วยการระงับการส่งออกหรือเพิ่มภาษีในอัตราที่สูงมาก ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศเช่นกัน แต่ก็อาจเป็นผลดีให้จีนเริ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้แร่ชนิดนี้ เพื่อเพิ่มระดับความต้องการภายใน และรองรับปริมาณแร่ที่จะเข้ามาสู่ตลาดภายในประเทศ
สหรัฐยังอาจรู้ตัวมาระยะหนึ่งแล้วว่า จีนอาจจะใช้ไม้นี้เพราะมีรายงานข่าวเป็นระยะในช่วงที่เกิดสงครามการค้าว่า สหรัฐกำลังรื้อฟื้นอุตสาหกรรมแรร์เอิร์ธในประเทศ หรืออาจจะนำเข้าจากเวียดนามหรือเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจีนชี้ว่า สหรัฐจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะฟื้นอุตสาหกรรมแร์เอิร์ธในประเทศตัวเองได้