คอลัมน์ “เส้นเรื่องธุรกิจ” ตอนพิเศษ : ดู Game of Thrones แล้วย้อนดูการเมืองไทย

>>

เส้นเรื่องของซีรีย์ Game of Thrones มหาศึกชิงบัลลังก์ เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายแบบ End Game แล้วจริงๆ


ขณะที่ เรื่องราวของ Game of Prime Minister มหาศึกชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันจากนี้


ถึงจะรู้ว่า ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่นอนมาแบบ “ตาอิน” หรือวิ่งสู้ฟัดไปมาแบบ “ตานา”


แต่ที่แน่ๆ โอกาสที่ “มหาศึกชิงเก้าอี้นายกฯ” จะได้ผู้นำแบบ “ตาอยู่” ใน “มหาศึกชิงบัลลังก์” ดูจะเลือนลางอยู่


เพราะทั้ง ตาอิน กับ ตานา คงดึงเกมไว้สุดฤทธิ์ อารมณ์เดียวกับที่ “เซอร์ซี่” หวงแหนบัลลังก์เหล็กเหนืออื่นใด


เราได้เห็นผู้นำหลากสไตล์จากซีรีย์เรื่องนี้ โดยผู้นำส่วนใหญ่กว่าค่อนครึ่ง ล้วนแล้วแต่ “จบไม่สวย” เพราะเงื่อนปมที่ตัวเองผูกไว้ทั้งสิ้น


เป็นเสน่ห์แบบดิบๆ ปนเลือดสาดของซีรีย์สุดฮิตเรื่องนี้ กับเรื่องราวชิงไหวชิงพริบในเกมการเมือง ที่ใครอ่อนแอก็ต้องแพ้ไป


“เส้นเรื่องธุรกิจ”
รวบรวม 9 สไตล์ผู้นำที่น่าสนใจใน Game of Thrones โดยผู้นำแต่ละคนต่างมีเส้นเรื่องที่ขมวดปมเข้าหากัน แล้วเดินไปสู่จุดหักเห

  1. โรเบิร์ต บาราเธียน : ราชาแห่ง 7 อาณาจักร ผู้นำแบบนี้ไม่ไหวเอาซะเลย กินเหล้า เคล้านารี ชอบเข้าป่าล่าสัตว์ ไม่รู้จัก save the world ขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน สนใจแต่ตัวเอง เป็น “ผู้นำแบบโหล” ที่พบเห็นได้โดยทั่วไป

  2. ไทวิน แลนนิสเตอร์ : ลอร์ดผู้ร่ำรวยที่สุดแห่ง 7 อาณาจักร “ผู้นำฉลาดแกมโกง” เจ้ายศเจ้าอย่าง และบ้าคลั่งความเป็นตระกูลอีลิท เป็นผู้นำที่ขาดเมตตาแม้แต่กับลูกชายคนสุดท้องของตัวเอง

  3. เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ : ราชินีแห่ง 7 อาณาจักร เป็น “ผู้นำแห่งความเย่อหยิ่ง” ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา นอกจากลูกๆ ของเธอ ผู้นำตามอำเภอใจแบบนี้ ถูกพบได้มากในกลุ่มผู้บริหาร C level

  4. สแตนนิส บาราเธียน : น้องชายของ โรเบิร์ต บาราเธียน สแตนนิสเป็น “ผู้นำแบบหน้ามืดตามัว” อยากเป็นแคนดิเดทชิงบัลลังก์ สุดท้ายก็เป็นได้แค่แมงเม่า ใครเตือนก็ไม่ฟัง ก็พังไปสิ!

  5. เดแนริส ทาร์แกเรียน : แม่มังกรผู้กอบกู้ แต่พลิกล็อกกลายเป็น “ผู้นำแบบกลายพันธุ์” แรกๆ ดี แต่หลังๆ เริ่มมี เอ๊ะ! ยิ่งนานวันไปยิ่งอาการหนัก พบเห็นได้หลายคนในรัฐบาลยุค คสช.

  6. จอน สโนว์ หรือ เอกอน ทาร์แกเรียน : ผู้สืบทอดบัลลังก์ตัวจริงที่ไม่ยอมเคลม เป็น “ผู้นำแบบรับใช้” คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น คิดถึงส่วนรวมมากกว่าตัวเอง น่าจะได้ลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กับเขาบ้าง แต่คงไม่ทันเสือสิงห์กระทิงแรดหรอก เพราะฉะนั้นอยู่เล่นหัวกับ “โกสต์” น่ะดีแล้ว

  7. ซานซ่า สตาร์ค : ราชินีแห่งแดนเหนือ เป็น “ผู้นำสายวิบาก” เล็กๆ เธอเคยใฝ่ฝันอยากเป็นราชินีของคิงแลนดิ้ง เมืองหลวงแห่ง 7 อาณาจักร แต่สุดท้ายเธอก็ได้เป็นราชินีในเหย้าของตัวเอง บนเส้นทางสายวิบากและหฤโหด

  8. เอ็ดดาร์ด สตาร์ค : ลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟล “ผู้นำแบบพ่อปกครองลูก” อุดมด้วยคุณธรรมล้ำเลิศ แต่ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ตั้งแต่จบซีซั่นแรก คนดีอยู่ยากจริงๆ

  9. แบรน สตาร์ค : แบรนผู้พิการและเป็นอีกา 3 ตา “ผู้นำแบบมีวิชั่น” คาดการณ์แนวโน้มได้ดี เป็นอีกา 3 ตา ก็เหมือนใส่แว่น 3 มิติ เข้าใจที่มาที่ไปในอดีต แจ่มแจ้งกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และเล็งเห็นเทรนด์ในอนาคต จะว่าไปแล้ว แบรนเป็น “ว่าที่ราชา” ตั้งแต่หัววัน เพราะนั่งอยู่แต่บนเก้าอี้/บัลลังก์ ไม่ได้ลุกไปไหน ขณะที่คนอื่นวิ่งขาพันฆ่าฟันกัน

ประเทศไทยต้องการผู้นำแบบไหน ในก้าวจังหวะที่กำลังฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาล ถ้าต้องช้อปปิ้งเอาจาก 9 สไตล์ผู้นำใน Game of Thrones คงต้องจัดสูตรผู้นำแบบผสม เพื่อ “ละลายความเทา” ให้เจือจางลง และ “เพิ่มความเฉลียว” ให้คนดีได้ฉลาดทันเกม


บทส่งท้ายของ Game of Thrones พูดถึง “การตัดวงล้อแห่งอำนาจ” (break the wheel) ที่หมุนวนอยู่ในระบบการปกครองแบบเดิมๆ ซึ่งมันเคยเวิร์ก แต่ตอนนี้มันไม่เวิร์กอีกต่อไปแล้ว เพราะมันจะนำไปสู่การโค่นล้มไม่มีที่สิ้นสุด


แม้แต่การช่วงชิงอำนาจของเดแนริสก็เช่นกัน นางก็หวังจะตัดวงล้อแห่งอำนาจวงเดิม เพื่อไปสร้างวงล้อที่ใหญ่กว่า กลายเป็นเผด็จการเต็มรูปแบบ แม่มังกรก็เลยไม่ต่างอะไรกับนาซี ที่สุดท้ายจอนก็ต้องมาตัดวงจรเดแนริสเสียเอง


ประเทศไทยจะตัดวงล้อแห่งอำนาจลงได้ไหม ก็ขึ้นกับตัวผู้นำ ว่ามีความเป็นไทวินมาก หรือมีความเป็นจอนมากกว่ากัน ความเป็นคนดีแบบจอน อาจไม่มีบารมีมากพอจะนำประเทศก็ได้ หรือความโหดร้ายแบบไทวิน อาจจะบารมีมากล้นรำพัน แต่ประเทศลุกเป็นไฟก็เป็นได้


นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย ไปให้สุดแล้วหยุดที่ใครบางคน อาจไม่ใช่คำตอบที่ใช่ หรือฝากอนาคตไว้กับผู้นำเลือดใหม่ ก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี


ที่แน่ๆ คือ ภายในสัปดาห์นี้ เราจะได้นายกฯ คนใหม่ ที่จะมีสไตล์แบบไหนใน 9 ผู้นำของ Game of Thrones เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์