บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาด SET Index อ่อนตัวทดสอบ 1,610 – 1,615 จุด จากความกังวล Trade war ระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยืดเยื้อและยังไม่มีทีท่าจะเจรจากันได้ ประกอบกับสหรัฐประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าเม็กซิโกในอัตรา 5% มีผลวันที่ 10 มิถุนายนนี้ รวมถึงจะตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) กับอินเดียในวันที่ 5 มิถุนายน ยิ่งกดดันให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นและเป็นลบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนอยู่ในภาวะ Risk off โดยเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น US Bond และทองคำ นอกจากนี้ Trade war ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงจากความกังวล Demand ที่ลดลงซึ่งเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งภาวะการเมืองภายในที่ยังมีความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมจะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางตลาดในช่วงนี้
ประเด็นสำคัญวันนี้
คาด SET Index เดือนมิถุนายนยังผันผวนโดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่จะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายเดือน กลยุทธ์เน้น Domestic Play Top pick – ADVANC, BEM, BDMS, CK และ CPALL : SET Index เดือน พ.ค. ลดลง 3.2% ส่วนพอร์ตลงทุนของเราดีกว่าตลาดแต่ให้ผลตอบแทน -1.2% แนวโน้มเดือน มิ.ย. คาด SET Index จะยังผันผวนโดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของเดือนซึ่งถูกกดดันจากปัญหา Trade war ที่ขยายตัว รวมไปถึงราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าดัชนีจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงปลายเดือนเก็งกำไรปัญหา Trade war จะคลี่คลายในการประชุม G20 ในช่วงวันที่ 28-29 มิถุนายน รวมไปถึงการเก็งกำไรการจัดตั้งทีมเศรษฐกิจ และการประกาศ Action plan เพื่อฟื้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
Trade war ขยายวงกว้างจากจีนสู่เม็กซิโกกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนหนักในช่วงวันศุกร์และวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงถึง 355 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลถึงปัญหาสงครามการค้าที่เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นหลังจากล่าสุด สหรัฐประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก เพื่อกดดันให้เม็กซิโกจัดการกับปัญหาผู้อพยพผิดกฏหมาย โดยจะเรียกเก็บภาษีในอัตรา 5% ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนนี้ หากเม็กซิโกยังแก้ปัญหาไม่ได้จะเพิ่มอัตราภาษีเป็น 10% ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 และ จะเพิ่มอีกครั้งละ 5% ทุกๆเดือนจนถึงระดับสูงสุดที่ 25% ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562
กลุ่มธุรกิจน้ำมันยังน่าห่วงหลังจากราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เนื่องจากกังวลดีมานด์ชะลอตัวจากผลกระทบของ Trade war โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรงกว่า 3$/bbl เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเมื่อคืนนี้ลดลงอีก 0.25$/bbl ส่งผลให้รวม 4 วันลดลงแรงกว่า 5.9$/bbl หรือ 10% มาปิดที่ระดับ 53.17$/bbl เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลถึงผลกระทบของปัญหา Trade war ที่ขยายตัวเป็นวงกว้างกดดันให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง ส่งผลลบต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่นโดยตรงโดยเฉพาะผลประกอบการไตรมาส 2 นี้ ที่อาจจะกลับมาชะลอตัวอีกครั้งจาก Stock gain ที่ลดลงหรืออาจพลิกมี Stock loss
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มสื่อสาร (DTAC, ADVANC, TRUE) รับข่าวบวกศาลปกครองยกฟ้องคดี TOT เรียกร้องค่าเชื่อมโยงโครงข่ายพร้อมดอกเบี้ยจาก 3 บริษัทเนื่องจากอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่ายขัดต่อประกาศกสทช.
- กลุ่มพักเงินในภาวะตลาดผันผวน (AOT, TTW, CPALL, BEM, BTS, BDMS)