นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) และรักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ ว่าได้มีการหารือกับหน่วยงานภาครัฐ สมาคมผู้ประกอบการ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ ของรถจักยานยนต์ในการนำระบบเบรกที่มีระบบป้องกันการล็อกล้อ หรือ Anti - lock Braking System (ABS) มาใช้ในรถจักรยานยนต์ให้มากขึ้น
จากข้อมูลทางวิชาการระบุว่าในการนำระบบ ABS มาใช้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตได้ แต่เนื่องจากต้องมีความพร้อมในเรื่องของด้านการผลิต การส่งเสริมทางด้านการลงทุน (BOI) และทักษะที่ดีของผู้ขับขี่ ซึ่งจากการหารือดังกล่าวได้มีการตั้งเป้าให้รถจักรยานยนต์จะต้องมีการติดตั้งระบบ ABS ใน 5 ปีหรือปี 2567 ส่วนจะเป็นประเภทเครื่องยนต์ขนาดซีซีไหนเตรียมจะให้มหาวิทยาลัยของรัฐทำการศึกษาก่อนเพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติแต่จะต้องขอการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐและทางเอกชนผู้ประกอบการในการทำการศึกษา ซึ่งคาดว่าการศึกษาจะใช้ระยะเวลา 1-2ปี ไม่เกินนี้ก็น่าจะทำการศึกษาแล้วเสร็จ
ทั้งนี้การที่มีการติดตั้งระบบ ABS ในรถจักรยานยนต์นั้น ได้มีการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบว่าการติดตั้งระบบดังกล่าวมีส่วนทำให้การเกิดอุบัติลดลงแต่การลดอุบัติเหตุลดลงอย่างชัดเจนก็ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบด้วยทักษะในการขับขี่ของเจ้าของรถที่จะต้องมีทักษะที่ดีและมีความระวัดระวังในการขับขี่ ซึ่งในการสอบใบขับขี่ในอนาคตจะมีการบรรจุเนื้อหาดังกล่าวเข้าไปด้วย
ขณะที่ผู้ประกอบการมีความยินดีที่จะสนับสนุนทางด้านการศึกษาระบบ ABS ในทุกมิติและให้ความร่วมมือติดตั้งระบบในรถจักรยานยนต์ ด้านความคืบหน้าด้านกฎหมายต่างๆเช่น กฎหมายเรื่องความเร็ว กฎหมายเรื่องค่าปรับฯ ทางกรมการขนส่งทางบกและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการอยู่แล้วซึ่งกฎหมายเหล่านี้ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการแม้ว่ายังไม่มีผลบังคับใช้แต่ก็ถือว่ามีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตามผลสรุปในการหารือดังกล่าวจะมีการรวบรวมนำขึ้นเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบเพื่อเสนอให้ทางคณะรัฐมนตรี(ครม.)และนำไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติติต่อไป