นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปีนี้มีความท้าทายจากการชะลอตัวเศรษฐกิจโลก ทำให้ไทยต้องเตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งทาง สศค. ได้เตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อเสนอให้รมว.คลัง คนใหม่เข้ามาพิจารณาเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว คาดว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และรัฐบาลใหม่ชุดใหม่จะเริ่มทำงานได้ในไม่ช้านี้
ขณะนี้ การขยายตัวเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ชะลอตัวอยู่ที่ 2.8% และใกล้สิ้นสุดไตรมาส 2 คลังได้ติดตามใกล้ชิด หากเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าที่คิดไว้ ก็ต้องมีมาตรการบางมาตรการบางอย่างออกมาดูแลเศรษฐกิจ
"มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเสนอ รมว.คลังคนใหม่ จะต้องเป็นมาตรการที่เห็นผลได้เร็ว เพราะเป็นการพยุงการขยายตัวเศรษฐกิจปันี้ที่ชะลอตัวลง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจปีนี้ทรุดตัวไปมากกว่านี้ ส่วนจะให้เป็นมาตรการที่ให้ยาแรงขนาดไหนต้องประเมินสิ้นเดือนนี้อีกครั้ง" นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า การส่งออกมีส่วนสำคัญกับการขยายตัวเศรษฐกิจมาก แต่ไตรมาสแรกขยายตัวติดลบ และเดือน เม.ย. ก็ยังขยายติดลบอีก ซึ่งน่าเป็นห่วง ต้องรอดูตัวเลขในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ว่าจะออกมาอย่างไร หากการส่งออกไตรมาส 2 ไม่ดีขึ้น สศค. ก็ต้องพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น และต้องมีการทบทวนเศรษฐกิจใหม่จากที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8%
สำหรับในด้านอื่นๆ การลงทุนรัฐบาลได้เร่งเบิกจ่ายเต็มที การลงทุนภาคเอกชน ก็ต้องเร่งขับเคลื่อนโครงการอีอีซี ที่ให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจปีนี้ของไทยชดเชยการส่งออกที่ลดลง