นักวิเคราะห์ประเมิน JKN เติบโตต่อเนื่อง ลุ้น CNBC ช่วยหนุนการเติบโต
>>
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มีมุมมองเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) โดยมอง 4 เหตุผลที่สำคัญที่แนะนำ "ซื้อ" เนื่องจาก
- JKN เป็นเป็นผู้นำในตลาดคอนเทนต์รายใหญ่ ที่มีศักยภาพเติบโตสูง ซึ่งกำลังก้าวสู่ตลาดสากล
- แม้ผลกระทบจากการที่ 7 ช่องทีวีคืนช่องจะกระทบลูกค้า 2 ราย แต่บริษัทสามารถหาลูกค้าอื่นมาแทน และเพิ่มรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ CNBC ปัจจุบันมี Backlog ในมือกว่า 709 ล้านบาท
- ประมาณการกำไรปี 2562 เติบโตโดดเด่น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าอุตสาหกรรมโฆษณาที่คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะเติบโตในระดับต่ำ 1-2%
- ประเมินมูลค่าพื้นฐานในปี 2562 ที่ 11.90 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC 10.6% มี Upside 39% จึงมองว่าราคาหุ้นตอบสนองข่าวเชิงลบไปหมดแล้ว
ทั้งนี้ผลกระทบของการคืนใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล แม้ว่าบริษัทจะถูกกระทบจากลูกค้า 2 รายคือ Bright TV และช่อง 3SD ซึ่งปีก่อนมีการขายลิขสิทธ์ให้ไปราว 5% ของรายได้ อย่างไรก็ตามบริษัทมีการการขายคอนเทนต์ไปยังต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงรายได้เพิ่มจากการขายลิขสิทธ์ของ CNBC ช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป
โดยปัจจุบันมี Backlog จากการจำหน่ายคอนเทนต์ในมือกว่า 709 ล้านบาท แบ่งเป็น
- ตลาดในประเทศ 578 ล้านบาท
- ตลาดต่างประเทศ 131 ล้านบาท
ประมาณการรายได้ปีนี้ไว้ที่ 1,657 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดกำไรในปีนี้ที่ 272 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนการเติบโตในไตรมาสที่ 1 คาดว่าจะมีรายได้ 422 ล้านบาท หรือเติบโต 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดจำหน่ายลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ครึ่งปีหลังเริ่มรับผลบวกจากการขายลิขสิทธิ์รายการผลิตของทาง CNBC ในการผลิตรายการข่าวในรูปแบบภาษาไทย เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าดิจิทัล โดยในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะเริ่มออกอากาศทางช่อง GMM25 ทั้งหมด 3 รายการ และอยู่ระหว่างเจรจาขายลิขสิทธ์ให้อีก 2-3 ช่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มรายได้ให้บริษัทราว 60 ล้านบาท
โกลเบล็กคาดกำไรปีนี้ 300 ลบ.
บล.โกลเบล็ก รายงาน JKN กำไรสุทธิไตรมาสที่ 1 ที่ 80 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายได้จากการจำหน่ายสิทธิ์คอนเทนต์ที่เติบโตถึง 26% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 412 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายในประเทศ 293 ล้านบาท ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักลดลงจากลูกค้าที่เป็นสถานีโทรทัศน์ระบบเคเบิลและดาวเทียม และมียอดขายต่างประเทศ 118 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทเริ่มมียอดขายต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสที่ 1 ที่ 14 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวลดลงจาก 20.4% ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 เหลือ 19% โดย ณ สิ้น ไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา บริษัทมี Backlog จากการจำหน่ายคอนเทนต์ทั้งสิ้น 709 ล้านบาท แบ่งเป็น ในประเทศ 578 ล้านบาท และต่างประเทศ 131 ล้านบาท
ทั้งนี้คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ราว 300 ล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ยอดขายในประเทศจะได้รับผลกระทบ แม้ในช่วงไตรมาส 1/2562 ยอดขายสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศจะลดลงและคาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จากการคืนใบอนุญาตของทีวีดิจิตอลทั้งสิ้น 7 ช่อง โดยเป็นลูกค้าที่ซื้อคอนเทนต์กับทาง JKN ถึง 2 ช่อง ได้แก่ ช่อง Bright TV และช่อง 3SD ซึ่งกระทบกับรายได้ราว 5-7%
แต่มองว่าบริษัทจะสามารถขายคอนเทนต์ไปต่างประเทศมาชดเชยรายได้ที่หายไปได้ อีกทั้งบริษัทเตรียมเปิดตัวรายการ CNBC ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562 ซึ่งจะหนุนการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่ง จึงยังคงประมาณการการเติบโตรายได้ไว้ 1,700 ล้านบาท หรือเติบโตราว 20% และยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ที่ 300 ล้านบาท เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้แถลงข่าวความร่วมมือช่อง GMM25 เสนอข่าวลิขสิทธิ์ CNBC เริ่มออกอากาศ 1 กรกฎาคมนี้ นำร่อง 3 รายการ ได้แก่
- รายการ Squawk Box
- รายการ Power Lunch
- รายการ Street Signs
รายการใหม่ล่าสุดของ CNBC (Asia) ซึ่งทาง JKN เป็นบริษัทฯ ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวของประเทศไทยจาก NBC (Universal) เครือข่ายสถานีโทรทัศน์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลา 10 ปี