สื่อ Investing.com รายงานว่า หุ้นเอเชียโดยส่วนมากมีราคาซื้อขายต่ำลงในเช้าวันนี้ยกเว้นหุ้นจีน ขณะที่ตลาดกำลังจับตาความเป็นไปได้ของการลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ และเหตุการณ์ความขัดแย้งที่หนักข้อขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง
ดัชนี Shanghai Composite และ Shenzhen Component ของจีนขยับขึ้น 0.51% และ 1.04% ตามลำดับ เมื่อเวลา 22:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (02:20 GMT) ตามมาด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จากแถลงการณ์ล่าสุดที่ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
ตลาดคาดหวังให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อต่อกรกับผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจจากความไม่ลงรอยทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งเมื่อคืนนี้ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนี S&P 500 ได้พุ่งขึ้นถึง 1% เพื่อทำราคาปิดสูงสุดในประวัติการณ์
นายโคตะ ฮิรายามา นักเศรษฐศาสตร์ด้านตลาดเกิดใหม่อาวุโสจาก SMCB Nikko Securities ได้ให้ความเห็นไว้ว่า "เห็นได้ชัดว่าผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้นั้นส่งผลดีต่อตลาดการเงินอย่างมาก รวมถึงตลาดการเงินในฝั่งเอเชียด้วย"
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง ต่างก็เตรียมพบปะกันในที่ประชุม G-20 สัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาประเด็นปัญหาทางการค้า ตลาดกำลังจับตาเพื่อเฝ้าดูสัญญาณใหม่ ๆ เกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าและดูว่าตลาดจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
- ทางด้านดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นก็ปรับลง 0.26% และ
- ดัชนี KOSPI ขยับลง 0.13%
โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ตัดสินใจใช้นโยบายทางการเงินดังเดิมเมื่อวานนี้