บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

มีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัว 1,710 – 1,725 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะยังคงได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่องตามภาวะ Risk on หลัง Fed และ ECB ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับกลุ่มพลังงานได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นเหนือ 57 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังอิหร่านยิงโดรนสอดแนมของสหรัฐ และสหรัฐเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนีเข้าเขต Overbought รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม G20 ในช่วง 28 – 29 มิ.ย. นี้ เพื่อติดตามการเจรจาข้องพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนว่าจะมีความคืบหน้าหรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy

• กลุ่มพลังงานรับอานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงยืนเหนือ 57 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่น PTTEP, PTT, TOP, PTTGC
• กลุ่มที่ได้ประโยชน์หากการเจรจา Trade war สหรัฐ-จีนคืบหน้า เช่น KCE, HANA, PSL
• กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะการเมืองชัดเจน เช่น AMATA, WHA, STEC, CK, SEAFCO
• กลุ่ม Domestic Play  เช่น AOT, TTW, CPALL, BEM, BTS, BDMS, EA, BGRIM, TPCH

หุ้นแนะนำวันนี้ 

TOP ซื้อ เป้าหมาย 80 บาท

เป็น Top pick กลุ่มโรงกลั่นซึ่งได้ Sentiment บวกจากข่าวโรงกลั่นในสหรัฐระเบิด ขณะที่ความเสี่ยงจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบค่อยๆ ลดลงหลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบทยอยฟื้นตัวขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาปิดในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ระดับ 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล



SEAFCO ซื้อ เป้า Consensus 10 บาท 

ทยอยสะสม SEAFCO ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับกลุ่ม ทั้งๆที่ SEAFCO เป็นกลุ่มผู้รับเหมาเสาเข็มและฐานรากซึ่งจะได้รับเงินหรือประโยชน์ก่อนผู้ก่อสร้างรายอื่นๆดังนั้นหากรัฐบาลเร่งประมูลโครงการขนาดใหญ่ SEAFCO จะได้ประโยชน์เป็นรายแรก และล่าสุดมีกระแสข่าวจะได้งานขนาดใหญ่มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3,300 ล้านบาทรองรับรายได้ไปอีก 1-2 ปี