SUPER ลุยต่อเข้าซื้อหุ้น “ซุปเปอร์ วอเตอร์” แตกไลน์ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา 

>>

Hightlight

  • บอร์ด SUPER ไฟเขียวซื้อหุ้น “ซุปเปอร์ วอเตอร์” แตกไลน์ธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการลงทุนและเป็นการกระจายความเสี่ยง   
  • เป็นการลงทุนที่สร้างโอกาสในการขยายไปยังธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีตามการเติบโตของชุมชนและภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้มากขึ้น
  • การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (EIRR) ในระดับประมาณ 13.33%  

 


นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER
เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซุปเปอร์ วอเตอร์ จำกัด (SUPERW) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา จากกลุ่มบุคคลที่เกี่ยงโยงกัน ได้แก่ บริษัท สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย มีชัยไทยแลนด์ จำกัด (MTL) และบริษัท แอ็ดวานซ์ แอสเซท แมเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (AAMS) มูลค่าเงินลงทุนจำนวน 129,999,974 บาท


ทั้งนี้การเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ SUPERW จะส่งผลให้บริษัท กิจการร่วมค้า ไทยพานิชนาวา ก่อสร้าง และแหล่งน้ำไทย จำกัด (JVTPN) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา มีสภาพการเป็นบริษัทย่อยของ SUPER ซึ่ง SUPER จะถือหุ้นทางอ้อมใน JVTPN สัดส่วน 90% อีกด้วย (ทั้งนี้ก่อนการเข้าทำรายการ SUPERW ถือหุ้นใน JVTPN ร้อยละ 90)

 

สำหรับผลประโยชน์ที่บริษัทฯคาดว่าจะได้รับคือ

 

  1. เป็นการลงทุนที่สร้างโอกาสในการขยายไปยังธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีตามการเติบโตของชุมชนและภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้มากขึ้น โดยคู่สัญญาของบริษัทในปัจจุบันคือ การประปาส่วนภูมิภาคและบริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือและมีฐานะการเงินมั่นคง ดังนั้นรายได้ที่จะได้จึงมีความแน่นอนและต่อเนื่องในระยะยาว 
  2. เพิ่มความหลากหลายในการลงทุนและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
  3. เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว

    

“ที่ประชุมคณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการเข้าทำรายการดังกล่าว มีความสมเหตุสมผลและจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัท เนื่องจากการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (EIRR) ในระดับประมาณ 13.33% และยังเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้บริษัทฯสามารถรุกไปสู่ธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่ดี อัตราการเติบโตของทรัพย์สิน ผลกำไรและกระแสเงินสดให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นของบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว” นายจอมทรัพย์กล่าว