มองตลาดหุ้นวันนี้เป็นกลางถึงลบ โดยให้กรอบ SET Index ในวันนี้ที่ 1,715 – 1,735 จุด ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน การเร่งจัดทำนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐเบื้องต้นไม่แตกต่างจากนโยบายเดิมการชะลอนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจสร้างความผิดหวังให้กับตลาด กลุ่มโรงไฟฟ้าปัจจัยลบจากการผลิตไฟฟ้าของประเทศว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเรื่องยังไม่จบเมื่อล่าสุดสหภาพแรงงานกฟผ. ออกแถลงการณ์ให้ภาครัฐออกมาชี้แจงความชัดเจนและเร่งปฏิบัติตาม ส่วนการ Preview ผลประกอบการและการประกาศงบไตรมาส 2/62 ส่วนใหญ่คาดยังไม่ดีเนื่องจากหลายบริษัทต้องบันทึกค่าใช้จ่ายตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ และที่สำคัญ Fund Flow ต่างชาติซึ่งเป็นตัวหนุนและพยุงดัชนีในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาเตือนในทางลบหลังจาก Bond yield 10 ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัว ค่าเงิน Us Dollar เริ่มแข็งค่า ปัจจัยนี้อาจจะกดดันให้ Fund Flow ไหลเข้ามีแนวโน้มที่จะลดลง
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 2/62 จะเติบโตขึ้น เช่น PTTEP, EA, BGRIM, GPSC, CKP ,CPF, GFPT, TFG, CPALL, MTC, THANI, VGI, PLANB, MINT, VNT, WORK, MAJOR
- กลุ่มขนส่งทางเรือ รับอานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นต่อเนื่องล่าสุด 1,700 จุด เช่น PSL, TTA
- หุ้นปันผลครึ่งปีเด่น เช่น INTUCH ,ADVANC ,KKP ,TCAP ,LH ,QH
หุ้นแนะนำวันนี้
CPF (ปิด 30 ซื้อ/เป้า IAA Consensus สูงสุด 34)
ราคาหมูและราคาไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 36 เดือน และ 21 เดือนในเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่เรามอง Cycle ขาขึ้นรอบนี้จะยาวนานกว่าในอดีต เนื่องจากได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของโรคอะหิวาต์แอฟริกาในจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลกำไรกลุ่มธุรกิจเกษตรในไตรมาส 2/62 และจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 3/63 เนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ เรายังเลือก CPF เป็น Top pick ของกลุ่ม
VNT (ปิด 25.25 ซื้อ เป้า 29 บาท)
คาดเป็นหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีที่คาดว่างบไตรมาส 2/62 จะออกมาโดดเด่นที่สุดของกลุ่ม จากผลบวกของ Spread PVC ที่เพิ่มขึ้นหลังจากต้นทุนซึ่งเป็น Ethylene ลดลงตามตลาดปิโตรฯ ขณะที่ราคา Caustic Soda ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลักราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากอินเดียกลับมานำเข้าอีกครั้งเช่นเดียวกับโรงอะลูมิเนียมรายใหญ่ของบราซิลที่กลับมาผลิตสั่งซื้อมากขึ้น