“กรรชัย กำเนิดพลอย” (หนุ่ม) โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาร่วม 30 ปี บทบาทที่ได้รับส่วนใหญ่เป็น พระรอง เป็นเพื่อนพระเอก ก็เลยมีงานชุกกว่าพระเอกหลายคน จำนวนละครที่เขารับเล่นเหยียดยาวเป็นหางว่าว

 
สิบปีที่แล้วเขาจับพลัดจับผลูมาเป็นพิธีกรรายการข่าว “เมืองไทยวาไรตี้” ของช่อง 5 ที่อาร์เอสรับผลิตให้ โดยมาเป็นมวยแทน “หนุ่ม ศรราม” (เทพพิทักษ์) ที่ติดคิวละครจนมาจัดรายการไม่ได้ ไปๆ มาๆ หนุ่ม กรรชัย ก็เลยได้จัดรายการคู่กับ “ฮาร์ด สุทธิพงศ์” (ทัดพิทักษ์กุล) รายการนี้ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ในช่วงไพร์มไทม์ คนดูก็เลยคุ้นชินกับอีกบทบาทของ หนุ่ม กรรชัย นอกเหนือจากงานแสดง

หลังจากนั้นก็มีงานพิธีกรสารพัดรูปแบบ มาเชื้อเชิญ หนุ่ม กรรชัย ให้ไปช่วย หนึ่งในรายการแรกๆ ที่ทำให้ผู้คนจดจำ หนุ่ม กรรชัย ได้แม่น คือ รายการดาวล้านดวง ช่อง 3 ที่สุดจะเว่อร์วังอลังการตามสไตล์ของผู้จัด “เจ๊ไก่ วรายุทธ” (มิลินทจินดา) รายการนี้เฉิดฉายอยู่ได้ 5 ปี พอช่อง 3 ปรับผังรายการ คนทำงานก็แยกย้าย

หนุ่ม กรรชัย โคจรต่อในเส้นทางพิธีกร โดยเป็นพิธีกรร่วมกับ “ป๋อง กพล” (ทองพลับ) ในรายการมิติพิศวง ช่อง 7 แล้วก็ยูเทิร์นมาจัดรายการข่าววาไรตี้อีกครั้ง กับรายการบอก 9 เล่าสิบ ช่อง 9 โดยร่วมกับพิธีกรคู่หูอย่าง “มดดำ คชาภา” (ตันเจริญ)

เขาเกิดจากช่อง 3 มาจับงานพิธีกรที่ช่อง 5 แล้ววิ่งไปหาประสบการณ์พิธีกรรายการลี้ลับที่ช่อง 7 จากนั้นกลับมาจัดรายการข่าวที่ช่อง 9 แล้วผันตัวมาผลิตรายการทอล์กข่าว “ปากโป้ง” ที่ช่อง 8 เป็นของตัวเองยาวไปอีก 5 ปีก่อนยุติไป รวมถึงยังเป็นพิธีกรรายการข่าวใส่ไข่ ที่ช่องไทยรัฐทีวีด้วยอีกสายหนึ่ง ถือเป็นคนบันเทิงส่วนน้อยของน้อยที่สุด ที่สามารถเดินสายทำงานในช่องหลักๆ ได้ครบทุกช่อง

 
ปัจจุบัน หนุ่ม กรรชัย ปักหลักทำรายการข่าว “โหนกระแส” ที่ช่อง 3 SD หรือช่อง 28 ที่กำลังนับถอยหลังสู่จอดำ โดยเขาต้องการลบภาพจำเดิมๆ ที่เคยเป็นนักแสดง มาสร้างภาพจำใหม่ของพิธีกรรายการข่าวและวาไรตี้ที่น่าเชื่อถือ และเลือกที่จะเล่นบทเป็นตัวเองทั้งชีวิต

นอกจากจะมีรายการโหนกระแสเป็นเรือธงแล้ว เขายังมีรายการเกมโชว์ทูโทนที่ร่วมกับ “จอนนี่ แอนโฟเน” อย่าง ดาวินชี่ เกมถอดรหัส กับ ดาวินชี่ เด็กถอดรหัส ที่ดึงเอา “น้องมายู” ลูกสาวสุดที่รักมาเป็นผู้ช่วยพิธีกรเด็ก

 
โหนกระแส ช่อง 3 SD ออกอากาศตอนแรกวันที่ 5 มิถุนายน 2560 และกลายเป็นม้ามืดเพียงข้ามคืน จากการจัดอันดับ 10 รายการเรตติ้งสูงสุดของทีวีดิจิทัลแต่ละช่อง ประจำวันที่ 19-25 มิถุนายน 2560 ของนีลเส็น ประเภทรายการข่าว โดยอันดับ 1 ทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี เรตติ้ง 2.075 อันดับ 2 ชูวิทย์ตีแสกหน้า ช่องไทยรัฐทีวี เรตติ้ง 1.502

สำหรับ "โหนกระแส" สามารถเหวี่ยงตัวเอง จนได้เรตติ้งวันแรกที่ออกอากาศ 0.741 เอาชนะรายการที่มีอยู่เดิม อย่าง คับข่าวครบประเด็น (ช่อง 9) เรตติ้ง 0.512, คนชนข่าว รีรัน (ทรูโฟร์ยู) เรตติ้ง 0.427, ข่าวข้นคนเนชั่น (เนชั่นทีวี) เรตติ้ง 0.376, เป็นเรื่องเป็นข่าว (พีพีทีวี) เรตติ้ง 0.356 และ เปิดปม (ไทยพีบีเอส) เรตติ้ง 0.249

 

ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา สำหรับอดีตนักแสดงคนหนึ่ง ที่พยายามปล่อยแสงเพื่อสร้างฐานที่มั่นในสนามข่าว

หลัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ลาจอไป ก็ดูเหมือนว่าจะเข้าสู่ยุคล่าคะแนนนิยมของบรรดาผู้ประกาศข่าวชาย ทั้งหนุ่มใหญ่หนุ่มเล็ก ที่ต่างใส่ลีลาหน้าจอกันแบบไม่ยั้ง ทั้งแนวโวยวายอย่าง “พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี” แนวน้ำไหลไฟดับอย่าง “ธีมะ กาญจนไพริน” แนวหมาแก่อย่าง “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” และแนวดราม่าอย่าง “ภาษิต อภิญญาวาท”

หนุ่ม กรรชัย เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดผู้ประกาศข่าวชาย ที่กำลังเติบโตดีวันดีคืน ถูกโฉลกกับ บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ที่เขาเป็นเจ้าของ จุดขายของ หนุ่ม กรรชัย ในสนามข่าวคือ เป็นตัวแทนของคนดูที่ตั้งคำถามง่ายๆ แบบคนอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่ลีลาท่ามากแบบคนข่าว เวลาเขาสัมภาษณ์ เหมือนดูเพื่อนฝูงหรือคนรู้จักคุยกัน แล้วนำไปสู่คำตอบที่คนดูก็คาใจมานาน

ครั้งหนึ่งเขาเคยสัมภาษณ์ “ปารีณา ไกรคุปต์” เรื่องประเด็น E-ช่อ อันโด่งดัง หนุ่ม กรรชัย พยายามยืนยันว่า คำว่า E-ช่อ ใช่ พรรณิการ์ วานิช หรือไม่ แต่ปารีณาก็ยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า “ไม่ใช่ค่ะ อีช่อคือคนที่ไม่รักษากฎระเบียบ เป็นคำเรียกกันค่ะ อีช่อๆ” จนเขาออกปากว่า “แถสีข้างถลอกแล้วเนี่ย” ซึ่งมันก็ตรงกับใจคนดูว่า เออ! จะแถไปถึงไหน

เวปไซต์ Thai SMEs Center ระบุถึงลักษณะเฉพาะตัวของ หนุ่ม กรรชัย ว่า เหตุผลหลักที่เขาสามารถถามแขกรับเชิญได้ตรงใจ โดยไม่ขัดแย้ง เป็นเพราะบุคลิกแบบนักแสดงที่ต้องละลายพฤติกรรมกับนักแสดงคนอื่นที่เข้าฉากด้วยกัน เวลาสัมภาษณ์จริงจึงคุยกันได้เหมือนเพื่อน เพราะเขาไม่ใช่นักข่าวที่ต้องมาไล่บี้กดดัน หรือตั้งคำถามในเชิงข่าว ซึ่งทำให้แหล่งข่าวไม่อยากคุยด้วย

นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แขกรับเชิญอยากมาออกรายการโหนกระแส มากกว่ารายการข่าวอื่นๆ เพื่อเลี่ยงภาวะกดดัน

ขณะเดียวกันโหนกระแสมีความสามารถในการนำเสนอประเด็นต่างๆ ที่เป็นกระแสได้เป็นอย่างดี สมกับชื่อรายการ เป็นรายการที่ตอบโจทย์ของแขกรับเชิญที่มีประเด็น และตอบโจทย์คนดูที่คาใจกับข่าวที่เกิดขึ้น ครั้งหนึ่งโหนกระแสเป็นรายการแรกที่จุดประเด็นเรื่อง หวย 30 ล้าน จนเป็นกระแสข่าวลามทุ่ง

“พิธีกรข่าวจำเป็นต้องมาจากนักข่าวหรือ ถึงผมไม่ได้มาจากตรงนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าผมทำได้ โดยเป็นมุมมองของชาวบ้านที่มาเป็นพิธีกร ที่ต้องการอยากช่วยเขา รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่ใช่แต่ต้องการข่าวอย่างเดียว” หนุ่ม กรรชัย เคยเปิดใจกับ Positioning Magazine Online

ความสำเร็จของโหนกระแส กลายเป็นสะพานทอดให้เขาได้เป็นผู้ประกาศข่าวหลักใน “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ช่อง 3 คู่กับ หมวย อริศรา (กำธรเจริญ) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา และเพิ่มส่วนต่อขยายรายการโหนกระแสแต่เช้า ช่อง 3 ทุกวันอาทิตย์ เป็นการสรุปข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ทุกวันนี้ดูเหมือนว่า กระแสของ หนุ่ม กรรชัย กำลังมาแรงเหมือนหุ้นบลูชิพ เพราะเรตติ้งข่าวเที่ยง “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ช่อง 3 สูสีกับ “ห้องข่าวภาคเที่ยง” ช่อง 7 อย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเรตติ้งประจำวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2562 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 นำเรตติ้ง 1.051 ส่วนห้องข่าวภาคเที่ยง ช่อง 7 เรตติ้ง 0.856 ถัดมาวันมะรืน วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2562 ห้องข่าวภาคเที่ยง ช่อง 7 พลิกกลับมานำเรตติ้ง 0.993 ส่วนเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 เรตติ้งไม่น้อยหน้ากัน 0.988

เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ที่ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย และ หมวย อริศรา จึงเป็นอีกช่วงเวลาที่นำความชุ่มชื่นให้บรรดาขาใหญ่ช่อง 3 ที่กำลังช้ำใจกับภาวะขาดทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เฉพาะไตรมาสแรกของปี 2562 นี้ ช่อง 3 ขาดทุนไปแล้ว 128 ล้านบาท หลังช่อง 3 SD จอดำไปแล้ว มีแนวโน้มว่าโหนกระแสจะย้ายเวลามาอยู่ช่อง 3 และมีโอกาสโหนเรตติ้งให้ช่องได้มากขึ้น

ในครึ่งปีหลังนี้ สถานการณ์โดยรวมของช่อง 3 น่าจะดีขึ้น จากการปรับใหญ่มาหลายระลอก ขณะที่ ชีวิตและธุรกิจของ หนุ่ม กรรชัย ในฐานะลูกหม้อของช่อง 3 ก็กำลังไปได้ดีแบบดีคืนดีวัน และเขาก็เป็นตัวเลือกที่ compatible ที่สุดของช่อง 3 ในเวลานี้ ในก้าวจังหวะที่ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มลืมเลือนผู้ประกาศข่าวชายในตำนาน “สรยุทธ สุทัศนะจินดา”