เปิดตลาดหุ้นลง 8.35 จุด โบรกฯมองหุ้นพักฐาน รอติดตามความเคลื่อนไหวเลือกตั้ง!

>>

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ว่า จะปรับตัวลงทดสอบ 1,640 – 1,645 จุด จากปัจจัยลบทั้งความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังสหภาพยุโรป (อียู) ปรับลดคาดการณ์จีดีพีเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ลง ประกอบกับกระแสข่าวว่าอาจจะไม่มีการประชุมเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนกำหนดการในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งจะทําให้สหรัฐเพิ่มการเก็บภาษีนําเข้าจากสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะรีบาวด์จากแรงซื้อดักผลประกอบการและเงินปันผลปีนี้ที่กําลังทยอยประกาศ

บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นจะแกว่งตัวพักฐาน จากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนไปในทางลบ โดยตลาดยังคงจับตาดูประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน รวมถึงเบร็กซิทว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนหน้าได้หรือไม่ ทั้งนี้มองว่ากลุ่มพลังงานคาดว่าจะถ่วงตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง แต่หุ้นในประเทศน่าจะยังเคลื่อนไหวได้แข็งแกร่งกว่าตลาด จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จึงมองการอ่อนตัวของตลาดเป็นการพักเพื่อขึ้นต่อ จึงแนะนำให้สะสมหุ้นพื้นฐานในช่วงตลาดพักฐาน

บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้จะปรับตัวลง โดยส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ แต่สาเหตุสำคัญคาดว่านักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ต้องกลับมาระมัดระวังสถานการณ์ทางการเมือง จะกระทบความเชื่อมั่นในการลงทุน และทำให้ฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเกิดการสะดุด แนะนำนักลงทุนขายลดพอร์ตลงบ้าง คาดกรอบดัชนีวันนี ้ 1,630-1,660 จุด

บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด มองว่าดัชนีตลาดหุ้นพักฐานจากปัจจัยภายนอก แต่มีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งภายในประเทศจากการจับตาการเปิดตัวรายชื่อนายกฯของทุกพรรค นำไปสู่การเดินหน้าหาเสียงที่คึกคักจากทุกพรรคการเมือง ให้แนวรับที่ 1,641-1,649 จุด และแนวต้าน 1,665-1,678 จุด 

บล.คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสย่อตัวลงกรอบ 1,637 – 1,652 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนกลับมาถูกกดดันอีกครั้งหลังปรับจีดีพีของอียู นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อย่างไรก็ตามมีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนมากขึ้นโดยมองว่าการปรับตัวขึ้นมา 5.5% ดัชนีได้ตอบรับเชิงบวกต่อนโยบายการเงินสหรัฐที่ผ่อนคลาย รวมถึงการเลือกตั้งของไทยที่ชัดเจนไปแล้ว และเมื่อพิจารณากำไรของบริษัทจดทะเบียนพบว่าบริษัทที่ได้ประกาศผลประกอบการออกมา ส่วนมากเป็นไปตามคาดของ Bloomberg Consensus ทำให้โอกาสจะปรับเพิ่มประมานการมีน้อย