บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล”...ส่งกอง CIMB-PRINCIPAL GINNO’ ขาย 11 – 15 .. นี้ ลุยลงทุนหุ้นใน 4 ธีม ‘Mega Trend’ ทั่วโลก สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

>>

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลจำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองหาโอกาสการลงทุนที่สามารถเติบโตไปได้เป็นแนวโน้มใหญ่ (Mega Trend) ที่ยาวนานกว่าวงจรเศรษฐกิจปกติทั่วไป โลกอยู่ในช่วงของการเริ่มต้นสู่ยุคการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หากนักลงทุนสามารถลงทุนกับบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูงอยู่ใน ‘Mega Trend’ ของโลกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น จะเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี ทีมจัดการลงทุนจึงได้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็น ‘Megatrend’ ของโลก พบว่าเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ

โดยบริษัทชั้นนำในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตเมื่อปี 2000 เช่น Google, Amazon, Microsoft, Facebook หรือ BMW ที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ล้วนแต่มีนวัตกรรมหรืออยู่ในธุรกิจที่เป็น Megatrend ทั้งสิ้น

จากการศึกษา ‘Megatrend’ ระดับโลกพบว่ามี 4 ธีม (Theme) ที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) ‘Digitalization’ หรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การนำเทคโนโลยียุคใหม่อย่าง Internet of Things (IOT) หรือการเชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วยอินเทอร์เน็ต และระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลได้เองเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพและลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ ส่งผลให้ธุรกิจด้านอี-คอมเมิร์ช FinTech เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยียังมีโอกาสเติบโตได้อีก

2) ‘Automation and Robotics’ การนำนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือหุ่นยนต์เข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยคาดว่านับจากปี 2017-2021 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์จะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอุตสาหกรรมที่ใช้หุ่นยนต์มากที่สุดคือ ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนใหญ่ถูกจำหน่ายให้แก่บริษัทในจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และเยอรมัน

3) ‘Healthcare Technology’ เทคโนโลยีด้านการดูแลและรักษาสุขภาพ เนื่องจากประชากรทั่วโลกมีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อสุขภาพมากขึ้นและเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา คาดว่าเมื่อถึงปี 2040 ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และ 4) ‘Millennials’ การให้ความสนใจกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคน Gen Y และ Gen Z ที่เกิดในช่วงปี 1980 – 2000 หรือมีอายุตั้งแต่ 19 – 39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีตลอดเวลา โดยคาดว่าในปี 2025 ประชากรกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของโลกและคิดเป็น 75% ของประชากรวัยทำงานจากการทำ Back Testing พบว่าหุ้น Mega Trend ทั้ง 4 ธีม มีผลตอบแทนดีกว่า (Outperform) หุ้นโลกในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง ‘Blackrock’ และ ‘Principal’ เพื่อเลือกกองทุน ETF (Exchange Traded Fund : ETF) ลงทุนในลักษณะของ Fund of Fund กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โกลบอล อินโนเวชั่น (CIMB-PRINCIPAL GINNO)’ จึงเป็นกองทุนที่มีนวัตกรรมทั้งในระดับกองทุน รวมถึงกองทุน ETF ที่ลงทุนก็มีการใช้เทคโนโลยี (Machine Learning ,AI) มาช่วยในกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในธีมนั้นๆ จากทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่างจากการใช้มนุษย์เลือกหุ้นแบบเดิม ทั้งนี้จากการทดสอบ Model Portfolio จำลองของกองทุน พบว่า แบบจำลองของกองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNO ที่กระจายในธีมทั้ง 4 ให้ผลตอบแทน 23.88% ภายในระยะเวลาประมาณ 2 ปีตั้งแต่จัดตั้งกองทุนหลักกองสุดท้ายถูกจัดตั้งเมื่อก..2016 ซึ่งเป็นผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI World Index มากถึง 9.25%”

นายวิน ยังกล่าวอีกว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายกอง CIMB-PRINCIPAL GINNOระหว่างวันที่ 11 .. - 15 .. 19 สั่งซื้อขั้นต่ำครั้งละ 5,000 บาท โดยกองทุนไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยจุดเด่นของกองทุนนี้ คือ การคัดเลือกธีมการลงทุนที่อยู่ใน ‘Megatrend’ ของโลก โดยมีการจัดสรรการลงทุนโดยทีมจัดการลงทุนของบริษัทฯ ในสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับการลงทุนในแต่ละช่วงขณะ โดยเรามีมุมมองว่า การคัดเลือกธีมลงทุนและการจัดสรรพอร์ตการลงทุนโดยผู้จัดการลงทุนจะสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและจัดสรรความเสี่ยงการลงทุนให้กับพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมให้กับผู้ลงทุนได้
วิน พรหมแพทย์ )

ทั้งนี้การลงทุนเริ่มต้น ทีมจัดการลงทุนจะกระจายการลงทุนใน 4 ธีม ผ่านกอง ETF จำนวน 5 กองทุน ที่บริหารจัดการโดย BlackRock Asset Management North Asia Limited, Principal Global Investors (Ireland) Limited, และ Global X Management Company, LLC ซึ่งจะลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต เช่น B2W DIGITAL ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ชจากบราซิลที่มีอัตราเติบโตที่โดดเด่น, GARMIN ผู้ผลิตอุปกรณ์ GPS และนาฬิกาสำหรับผู้ออกกำลังกาย, Da Vinci ผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์สัญชาติอเมริกัน, Dexcom ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ตรวจวัดระดับกลูโคสจากประเทศอเมริกา, NIKE ผู้ผลิตสินค้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำของโลก ฯลฯ

กองทุน CIMB-PRINCIPAL GINNO เหมาะกับผู้ลงทุนในระยะกลางและระยะยาวที่ต้องการกระจายการลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านกองทุนรวม โดยเรามองว่าภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลง ถือว่าจังหวะที่จะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเน้นลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีนวัตกรรมที่เป็น Mega Trend ของโลกทั้ง 4 ธีม ดังกล่าว

ศึกษาข้อมูลธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ www.cimb-principal.co.th/fund