“บลจ.ไทยพาณิชย์”...ปลื้มยอดขาย “กอง Complex Return” ทะลุ 6,700 ล้านบาท

>>

“บลจ.ไทยพาณิชย์”...ปลื้มนักลงทุนตอบรับดี “กอง Complex Return” ช่วยลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น ปิดยอดขาย 6,700 ล้านบาท ขึ้นอันดับ 1  ‘กอง Structure Fund’ ใหญ่ที่สุดในประเทศ


นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดขาย ‘กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ คอมเพล็กซ์รีเทิร์น1YB (SCBCR1YB)’ อายุ 1 ปี ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Structured Fund ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนของเงินต้น พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนตามตลาดหุ้นไทย จากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 9 พ.ค. 19 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม มียอดจองซื้อล้นกว่ามูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ทำให้ต้องขอเพิ่มขนาดของโครงการ จนทำให้สามารถปิดยอดขายได้สูงถึง 6,700 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนประเภท Structured Fund ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปีนี้


“กองทุนนี้สามารถตอบโจทย์การลงทุนให้กับผู้ลงทุนได้ ในสภาวะที่ตลาดยังเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอนจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะเด่นที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพในขณะที่ยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนตามตลาดหุ้นได้ผ่านการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับดัชนี SET 50 หากหุ้นขึ้นกองทุนจะได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ แต่ถ้าหุ้นลงกองทุนจะไม่ขาดทุนตาม”

 
( นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย )

สำหรับ ‘กอง SCBCR1YB’ มีกลยุทธ์การลงทุนโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

  • ส่วนที่ 1 ส่วนลดความเสี่ยงต่อเงินต้นประมาณ 98% ของทรัพย์สินกองทุน ซึ่งจะกระจายการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ของผู้ออกตราสารที่มีคุณภาพดีที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade ขึ้นไปในต่างประเทศและ/หรือในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงการผิดชำระหนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยซึ่งมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินต้น การลงทุนส่วนนี้มีความผันผวนต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้นได้ 


  • ส่วนที่ 2 จะลงทุนในวอร์แรนต์ที่อิงกับผลตอบแทนของดัชนี SET 50 Index ประมาณ 2% ของทรัพย์สินกองทุน เป็นส่วนสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุน โดยสัญญาวอร์แรนต์มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนแบบ Shark fin อิงกับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิงตามรูปแบบที่กำหนด ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่

  1. เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นระหว่าง 0 - 15% ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมกับผลตอบแทนเพิ่ม 50% ของผลตอบแทนของดัชนี

  2. เมื่อดัชนีปรับตัวขึ้นเกิน 15% ณ วันใดวันหนึ่งระหว่างอายุกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนพร้อมกับผลตอลแทนชดเชยเท่ากับ 1.8% ของเงินลงทุน

  3. หากราคาดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าราคา ณ วันลงทุน เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนแต่จะได้รับเงินต้นคืน หากไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ (default) ในส่วนที่ 1