ส่องตลาดถุงยางรับเดือนแห่งความรัก จับตา ‘Onetouch - Playboy’ ท้าแชมป์ Durex
>> ว่ากันว่าในเดือนแห่งความรัก ถือเป็นช่วงพีคของอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยจากดีมานด์ที่พุ่งขึ้นร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิการเมืองบ้านเราในช่วงนี้
ว่ากันว่าในเดือนแห่งความรัก ถือเป็นช่วงพีคของอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยจากดีมานด์ที่พุ่งขึ้นร้อนแรงไม่แพ้อุณหภูมิการเมืองบ้านเราในช่วงนี้
แม้ว่าปัจจุบันความเคลื่อนไหวการทำโปรโมชั่นของถุงยางอนามัยแบรนด์ชั้นนำ ในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ผ่าน Facebook Page ยังไม่เข้าขั้นดุเดือดมากนัก โดยมี TNR หรือ บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ ที่จัดโปรฯ ถุงยางอนามัยแบรนด์ “Onetouch” รุ่น วันสวีท โรแมนซ์ แบบบาง 0.03 มม. กลิ่นวานิลา-แคนดี้ ที่มีวางขายเฉพาะช่องทางออนไลน์ ลดสูงสุด 40% ตลอดเดือน ก.พ.นี้
ส่วนแบรนด์เจ้าตลาดในไทยอย่าง “Durex” ที่มีต้นกำเนิดในอังกฤษ ดำเนินงานภายใต้บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความเคลื่อนโปรโมทคลิปวีดีโอบน Facebook Page โดยคลิป ‘รหัสรัก.. ลีลา’ มีสถิติเข้าชม (ถึง 13 ก.พ.2562) ถึงกว่า 3.7 แสนครั้ง
ขณะที่แบรนด์ “Okamoto” ถุงยางอนามัยสัญชาติญี่ปุ่นที่นำเข้าและจำหน่ายโดยบริษัท ฮายาชิ โปรดักส์ จำกัด ก็นำถุงยางรุ่นต่างๆ มาโปรโมทถี่ยิบผ่านทาง Page Okamoto Thailand
มองภาพการแข่งขันอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยในประเทศไทยปีนี้ คาดว่าแนวโน้มตลาดจะเติบโตประมาณ 7% จากคาดการณ์มูลค่าตลาดรวมปีที่ผ่านมาประมาณกว่า 1,400 – 1,600 ล้านบาท โดยคู่ที่น่าจับตามองคือ TNR ที่มีส่วนแบ่งตลาดในไทยเป็นอันดับ 2 โดยมีแบรนด์ Onetouch เจาะตลาดกลาง และแบรนด์ Playboy (ได้รับสิทธิ์การขายและทำตลาด 188 ทั่วโลกรวมถึงไทย) เจาะตลาดบน ส่วนแบรนด์ Durex ภายใต้ เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) ปัจจุบันยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในไทย
TNR เป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัยสัญชาติไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) เมื่อปลายปี 2559 โดยเป็นผู้ผลิตถุงอนามัยที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศไทย แม้ว่าผลประกอบการหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่โดดเด่นมากนัก โดยกำไรสุทธิ (ตามงบการเงินเฉพาะกิจการ) ชะลอตัวลง แต่หลังได้สิทธิ์ในแบรนด์ถุงยางอนามัย Playboy เมื่อปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ TNR เพิ่มส่วนแบ่งตลาดในไทยและส่งออกมากขึ้น
ขณะที่ Durex ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่จะมีอายุครบ 90 ปีในปีนี้ โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ปัจจุบันมีถุงยางอนามัยที่ทำตลาดในไทยกว่า 12 รุ่น และรุกสร้างแบรนด์ทั้งโฆษณาทีวีและช่องทางออนไลน์
สำหรับตลาดถุงยางอนามัยในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา TNR ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 28% และแบรนด์ Playboy คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 7% ส่วน Durex คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดเป็นตัวเลขกลมๆ ประมาณ 50% จากมูลค่าตลาดรวม
ส่วนในปีนี้ Onetouch ตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในไทยเป็น 32% ขณะที่แบรนด์ Playboy ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเป้าหมาย แต่เชื่อว่าภายใต้การบริหารของ TNR จะเห็นการรุกทำการตลาดมากขึ้น หลังมีแผนเตรียมเปิดตัวแพ็กเกจจิ้งโฉมใหม่และรุกสร้างแบรนด์มากขึ้น
เช่นเดียวกันฝั่ง Durex ในฐานะที่ครองส่วนแบ่งตลาดในไทยเป็นอันดับ 1 ก็คงไม่หยุดนิ่งในการรุกทำกิจกรรมการตลาดผ่านสื่อต่างๆ ทั้ง เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและตำแหน่งแชมป์
ศึกษาธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ investor-th.tnrcondom.com