บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นว่าจะรีบาวด์กลับขึ้นไปทดสอบระดับ 1,645-1,650 จุด หลังจากพักตัวลงมาหาแนวรับบริเวณ 1,635 จุด อีกครั้ง ขณะที่บรรยากาศการลงทุนดูผ่อนคลายขึ้นหลังสหรัฐฯ-จีน จะเดินหน้าเจรจาการค้าต่อเนื่องในสัปดาห์นี้และมีโอกาสขยายเส้นตายขึ้นภาษีจากวันที่ 1 มีนาคม ออกไปอีก 60 วัน รวมถึงสหรัฐฯสามารถเลี่ยงชัต ดาวน์รอบ 2 ได้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ต้องติดตามตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 4/2561 รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมาหนาแน่นขึ้น
บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดดัชนีตลาดหุ้นรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,645 – 1,650 จุด ก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยภาวะ ตลาดได้ปัจจัยบวกภายนอกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก และจะเจรจาที่กรุงวอชิงตันต่อในสัปดาห์นี้ ประกอบกับสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์ได้ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณและแผนการรักษาความมั่นคงแนวชายแดน นอกจากนี้ราคาน้ํามันดิบที่ดีดตัวขึ้น จากแรงตอบรับกลุ่มโอเปกลดกําลังการผลิตน้ํามันลง เป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนสถานการณ์การเมืองภายในยังคงเป็นแรงกดดันส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออกในช่วง 6 วันที่ผ่านมา
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าดัชนีปรับตัวลงแรงจากแรงขายหลักของหุ้นแทบทุกกลุ่ม ทำให้ขณะนี้ดัชนีปรับตัวลงแรง โดยมองแนวรับถัดไปที่ 1,600-1,620 จุด โดยจังหวะรีบาวด์ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายทำกำไรหรือลดพอร์ตการลงทุน
บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางของโลก โดยแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณ ส่งผลสหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์รอบ 2 และอานิสงส์จากความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่อาจบรรลุข้อตกลงระหว่างกัน ให้กรอบดัชนีเคลื่อนไหว 1,627-1,662 จุด
