ประเมินดัชนีฯ ผันผวนกรอบแคบ มีโอกาสปรับตัวลงต่อ นักลงทุนยังไม่มั่นใจทิศทางการเมือง นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้น-พันธบัตร ต่างประเทศรอดูผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน รวมทั้งทางออกของ Brexit ...... ตลาดหุ้นไทย ถูกกดันมาต่อเนื่องหลังแนวโน้มการเมืองนั้นมีความคลุมเครือว่าผลเลือกตั้งจะออกมาในทางใดกันแน่ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้น-พันธบัตรติดต่อกันมา 6 วันทำการ ค่า CDS ขยับจากระดับต่ำสุดขึ้นมาต่อเนื่องเช่นกันสะท้อนมุมมองในทางลบของนักลงทุนต่างประเทศ ทำให้นักลงทุนอื่นๆชะลอการลงทุนตามไปด้วย ....... ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ต่างประเทศ จะเป็นเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่จะเริ่มวานนี้ (19) เนื่องจากตลาดรอดูผลการเจรจาว่าจะไปในทางที่คาดว่าจะเป็นบวกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ (สินทรัพย์ที่เป็น safe haven คือ พันธบัตรและทองคำ ปรับตัวขึ้นเพราะเรื่องนี้) ในขณะที่ BRExit นั้น นายกฯของอังกฤษเหลือเวลาไม่มากคือก่อน 27 ก.พ. ที่จะดีลให้จบ มิฉะนั้นทางสภาฯอาจเข้าควบคุมในเรื่องนี้เอง ... ปัจจัยในประเทศ อื่นๆ จะเป็นเรื่องการรายงานกำไน 4Q ที่จะออกในสัปดาห์นี้หลายตัว

Recommendation
ตลาดหุ้นยังขาดแรงซื้อ หลังนักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง แม้ตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีมุมมองบวกเข้ามาก็ตาม กลยุทธ์สัปดาห์นี้ จึงยังแนะเป็น “ชะลอการลงทุน” เน้นเล่นรายตัว กรอบเวลาสั้นๆ หากดัชนีฯต่ำกว่า 1620 จุด ลดน้ำหนักหุ้นขนาดใหญ่ลง ......event เฉพาะตัว AOT มีประชุมพิจารณา Terminal 2 หุ้นแถลงผลการดำเนินงานและภาวะธุรกิจ คือ NER, UV …. หุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ ประกอบด้วย PTTEP, RS , OSP , EA และเพิ่ม CPALL ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าระบบก่อนเลือกตั้ง

Today Stock Picks

CPALL: (ซื้อ, เป้าเชิงกลยุทธ์ 79 บาท) มากกว่า Convenience Store
--CPALL ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินสะพัดในช่วงรณรงค์ในการหาเสียงเลือกตั้งและแบงก์กิ้งเอเยนต์น่าจะเริ่มเห็นภายในครึ้งปีแรกของปีนี้

--คาดผลประกอบการ MAKRO ดีขึ้น หลังเน้นขายอาหารสดโดยใช้กลยุทธ์ด้านราคาสู้กับคู่แข่ง พร้อมกับการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศเพื่อหวังผลระยะยาว
--ราคาหุ้นไม่แพงหากเปรียบเทียบ P/E ปี 2019 ปัจจุบันเทรดที่ระดับ 23.5 เท่า เทียบกับ 30 เท่า) 

--KTBST คาดกำไรปี 2018 อยู่ที่ 20.9 พันลบ. +5%yoy และในปี 2019 จะเติบโตโดดเด่นราว +11.3% โดยคาดว่า SSSG จะเพิ่มขึ้นราว 2.75% ในปี 2019 และจะสามารถขยายสาขาได้อีก 700 สาขา ………(ราคาปิดวันก่อน 77.25 บาท, เป้าพื้นฐาน 85 บาท)